วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552

เหตุการณ์ถล่มครั้งรุนแรงในฉนวนกาซ่า ปาเลสไตน์

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่สร้างความสั่นสะเทือนต่อจิตใจของผู้พบเห็น ได้เกิดขึ้นอีกครั้งที่ปาเลสไตน์ เป็นวันที่โลกอิสลามต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่า เป็นอีกวันหนึ่งที่ประชาชาติอิสลามต้องประสบกับการนองเลือดครั้งใหญ่ เมื่อเครื่องบินรบ F-16 ของอิสราเอลที่ผลิตในสหรัฐอเมริกามากกว่า 100 ลำที่ติดจรวดพร้อมอาวุธหนักครบชนิดได้พาเหรดกันเข้าไปถล่มยิงและระเบิดในฉนวนกาซ่า ในดินแดนปาเลสไตน์ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลฮามาสที่เคร่งครัดในศาสนา เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีเกือบ 300 คน (ชะฮีด) และบาดเจ็บเกือบพันคน ในจำนวนนี้หลายร้อยคนอยู่ในอาการสาหัส ซึ่งบรรดาผู้ที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไป มีทหารอยู่จำนวนหนึ่ง และยังมีเด็กและสตรีอีกจำนวนไม่น้อย เนื่องจากอิสราเอลเลือกเวลาโจมตีช่วงที่เด็กๆ กำลังกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก พร้อมด้วยบรรดาแม่ๆ ที่มารับ ซึ่งการโจมตีครั้งนี้นับว่าเป็นอาชญากรรมล้างเผ่าพันธุ์ครั้งร้ายแรงที่สุดที่ยิวได้กระทำต่อปาเลสไตน์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967
พยานหลายคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้เล่าว่า เครื่องบินรบยิวไม่เจาะจงเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพราะเขตที่อยู่อาศัยและโรงเรียนหลายแห่งในกาซ่าก็ถูกยิงถล่มด้วย นอกจากนี้ มีจรวดลูกหนึ่งถูกยิงและตกอยู่ในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยอิสลามกาซ่า ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า มีความพยายามที่จะยิงจรวดถล่มตึกของมหาวิทยาลัย ที่มีนักศึกษาประมาณ 18,000 คนศึกษาอยู่ แต่พลาดเป้าไปโดนสนามกีฬาแทน แต่ก็เป็นจริงดังคาด เมื่อในวันถัดมา เครื่องบินรบของอิสราเอลได้ถล่มอาคารเรียนในมหาวิทยาลัยดังกล่าวจนพังพินาศ แต่โชคดีที่นักศึกษาได้คาดไว้ล่วงหน้า และได้อพยพออกจากอาคารเรียนได้ทันท่วงที มิฉะนั้น มหาวิทยาลัยคงจะกลายเป็นกูโบร์ (สุสาน) หมู่ของนักศึกษาอย่างแน่นอน
สำนักข่าวอาหรับได้แพร่ภาพ ร่างผู้เสียชีวิตตามท้องถนน และใต้ซากปรักหักพัง และยังมีศพของเด็กและสตรีด้วย ภาพต่างๆ ที่ท่านได้เห็นนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเสียหายทางด้านวัตถุ บรรดาชาวบ้าน สตรีและเด็กที่เสียชีวิตจากการกดยิงระเบิดบนเครื่องบินของอิสราเอล มีการรายงานว่า เครื่องบินดังกล่าว จงใจยิงเข้าใส่โรงเรียนตอนที่พ่อแม่กำลังไปรับลูกที่โรงเรียน ตอนโรงเรียนเลิก เครื่องบินรบของอิสราเอลได้ถล่มบ้านของครอบครัวชาวปาเลสไตน์ครอบครัวหนึ่ง จนทำให้สมาชิกในบ้านที่เป็นลูกสาว 5 คน คนโตอายุ 10 ขวบเสียชีวิตทันที พร้อมซากปรักหักพังของบ้าน
ถึงแม้ว่าบรรดาผู้นำประเทศอาหรับต่างออกมาเรียกร้อง ประชาชนในเขตฉนวนกาซ่าเอง และมุสลิมในหลายๆประเทศอาหรับหรือแม้แต่ประเทศในยุโรปเอง เช่นอังกฤษ ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก ได้ออกมาประท้วงและประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของยิวในครั้งนี้ แต่ก็ทำได้แต่เพียงการประณาม ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผลในการที่จะยับยั้งการโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างโหดร้ายนี้
และนี่คือสัญญาณที่เกิดขึ้นต่อโลกมุสลิมทั้งมวล พี่น้องร่วมชะฮาดะฮฺเดียวกับเรา ปฏิญาณตนภายใต้หลักหลักการอิสลามเหมือนกับเรา กำลังถูกอธรรมอย่างรุนแรง บ้านของเขาเหล่านั้นต่างพังทลาย ชีวิตของคนที่เขารัก ลูก ภรรยา สามี พ่อ แม่ ต้องพลัดพรากจากกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น