วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

• • • นักวิชาการกับปัญหาปาเลสไตน์• • •

นิติภูมิ นวรัตน์ : นี่ถ้าไม่ใช่อิสราเอลป่านนี้พวกชาติตะวันตกทั้งหลายก็คงจะโก่งคอขันกันแทบแตกว่า ให้ตั้งศาลดำเนินคดีกับผู้นำที่ชอบทำสงคราม แต่อิสราเอลเป็นประเทศที่ตะวันตกเอาไปโยนไว้ในทะเลทรายเพื่อไม่ให้อิสลามโต ก็จึงไม่มีใครไปตั้งศาลเพื่อเอาตัวผู้นำอิสราเอลไปขึ้น

• • •มหาตะมะ คานธี : ปาเลสไตน์เป็นของพวกอาหรับ ในความหมายเดียวกันกับที่ประเทศอังกฤษเป็นของชาวอังกฤษและประเทศฝรั่งเศสเป็นของชาวฝรั่งเศส ปาเลสไตน์ตามความหมายของพระคัมภีร์ไบเบิลนั้นมิใช่ดินแดนทางภูมิศาสตร์ แต่ว่าเป็นเรื่องอยู่ในดวงจิตใจพวกเขา เราจะกล่าวหาพวกอาหรับแม้แต่อย่างใดไม่ได้ ถ้าพวกนี้ต้องต่อสู้กับการรุกราน

• • •ดร.อาโนลด์ เจ. ทอยน์บี(นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ) : พวกปาเลสไตน์อาหรับได้เป็นพลเมืองปาเลสไตน์มาเป็นเวลานานกว่า 1300 ปี เวลาอันยาวนานเช่นนี้ทำให้พวกอาหรับมีสิทธิ์ในทางครอบครองที่จะอาศัยอยู่ในปาเลสไตน์....ยิวไม่มีสิทธิ์ที่จะยึดเอาเขตแคว้นนี้โดยใช้กำลังทางทหารและสถาปนารัฐยิวขึ้นเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้

• • •ดร.วิลเลียมเอ็ช สไตน์สปิง(ศาสตราจารย์สอนคัมภีร์ไบเบิลใหม่ในมหาวิทยาลัยดยุคร์แห่งนอร์ธคาโรลินา): ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยทั้งในคัมภีร์ไบเบิลเก่าและใหม่ที่จะสนับสนุนข้ออ้างของพวกไซออนิสต์(ยิว)ที่ว่ารัฐอิสราเอลที่ตั้งขึ้นใหม่ในปาเลสไตน์นั้น ถูกต้องชอบธรรม

• • •นาธาน ช็อบชี นักเขียนยิวชาวรัสเซียที่ได้อพยพไปอยู่ในปาเลสไตน์กล่าวว่า : ถ้าหากรับไบ แคปแลน้องการู้จริงๆเกี่ยวกับความจริงที่ได้เกิดขึ้น ชาวยิวได้บังคับชาวอาหรับให้อพยพละทิ้งตลาดร้านค้าและหมู่บ้านของพวกเขาอย่างไร ณ ที่นี้เป็นที่อยู่ของชนเผ่าหนึ่งมานาน 1300 ปีแล้ว เรามาแลกเปลี่ยนสภาพเจ้าถิ่นอาหรับให้เป็นผู้อพยพหนีภัย และเรายังกล้าประณามพวกเขา ทำลายชื่อเสียงของพวกเขาอย่างเสียๆหายๆเราน่าจะรู้สึกอับอายต่อการกระทำของพวกเราที่ผ่านมา

• • •ดิเร๊ก โทเซอร์ นักหนังสือพิมพ์อังกฤษ : นโยบายทางการของรัฐบาลอิสราเอลนั้นชัดเจนและเปิดเผย ชาวอาหรับก็คล้ายกับยิวสมัยนาซีเยอรมัน คือเป็นแค่พลเมืองชั้น ข. อย่างเป็นทางการ

• • •โมเช ดายาน ผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดของอิสราเอล ได้เปิดเผยให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายของเขาไว้ว่า : เป็นหน้าที่ของทหารอิสราเอลที่จะต้องดำเนินต่อไปในการต่อสู้เพื่อเป้าหมายในการก่อกำเนิดจักรวรรดิอิสราเอล

• • •นอร์แมน โทมัส : คนอาหรับมีสิทธิ์ที่จะกล่าวหาพวกยิวว่าปฏิบัติต่อพวกตน อย่างกะพวกฮิตเลอร์ปฏิบัติต่อพวกยิว เพราะชาวอาหรับเหล่านั้นได้รับการปฏิบัติอย่างพลเมืองชั้นสองอยู่แล้ว

• • •เบอร์ทรัน รัซเซล : โศกนาฏกรรมของชาวปาเลสไตน์คือประเทศของพวกเขาถูกอำนาจต่างชาติ ยกให้แก่คนอื่นเพื่อก่อตั้งประเทศใหม่ ผลก็คือ ผู้บริสุทธิ์ชาวปาเลสไตน์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแสนๆคนต้องอยู่อาศัยโดยปราศจากบ้านช่อง ทุกครั้งที่เกิดกรณีขัดแย้งกันตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นทุกที โลกจะชมดูความโหดร้ายที่ปราศจาก มนุษยธรรมไปอีกนานเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่ชัดแจ้งที่สุดว่า ผู้อพยพลี้ภัยดังกล่าวนั้น มีสิทธิอย่างเต็มที่ต่อแผ่นดินของพวกเขาซึ่งพวกเขาถูกขับไล่ออกไป และพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับในสิทธิของพวกเขานี่แหละ ที่เป็นลมหายใจในการเกิดข้อขัดแย้งต่างๆตลอดมา ไม่มีผู้ใดเลยในโลกนี้ที่ยอมรับ ถ้าพวกเขาถูกขับไล่ออกจากประเทศพวกเขาเป็นหมู่ๆ คนอื่นต้องการให้ชาวปาเลสไตน์ยอมทนต่อการทรมานทารุณกดขี่ที่คนอื่นไม่ยอมรับการผ่อนผันได้อย่างไร การให้พวกอพยพลี้ภัยหนีกลับไปยังถิ่นฐานเดิมของพวกเขา เป็นวิธีทางเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถแก้ปัญหาของบรรดาที่อาศัยอยู่ในตะวันออกกลางได้

• • • ที่มาของการก่อการร้ายและ ใครคือผู้ก่อการร้ายที่แท้จริง • • • •

นิยามของการก่อการร้ายยังคงเป็นสิ่งที่ไม่ชัดเจน และได้รับการถกเถียงมาตลอดว่ามีขอบข่ายเพียงใด แค่ไหน เพราะกรณีอย่างเช่น กลุ่มต่างๆที่ลุกฮือมาต่อสู้ในปาเลสไตน์กลับถูกมองจากชาวโลกด้วยความไม่เป็นธรรมว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย เพราะด้วยภาพลักษณ์ที่ถูกวาดภาพจากสื่อตะวันตกว่าคือ “โจร” ซึ่งแต่งกายด้วยผ้าพันศีรษะที่นำมาปิดหน้าเหลือไว้เพียงแค่ดวงตา ตลอดจน พฤติกรรมการต่อสู้ในแบบระเบิดพลีชีพ จึงถูกตราหน้าอย่างไม่เป็นธรรมจากสังคมว่าคือ กลุ่มก่อการร้าย

แต่หากเรามองอย่างมีมนุษยธรรมถึงปัจจัยที่ก่อกำเนิดการก่อการร้ายเหล่านั้นเราจะพบว่าล้วนมีที่มาจากการกดขี่อันโหดเหี้ยมของอิสราเอลทั้งสิ้น กลุ่มคนที่ใส่เสื้อสูท มีบุคลิกภาพที่ดูดี แต่มีรถถังพร้อมระเบิดมหาประลัยที่เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ ชาวอิรัก ไปกว่าแสนคนแล้ว กลับไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นการก่อการร้าย ในขณะที่ปฏิบัติการณ์ระเบิดพลีชีพของกลุ่มกู้ชาติปาเลสไตน์นั้นส่งผลต่อความเสียหายได้น้อยกว่าปฏิบัติการณ์ทางทหารที่อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ชนิดที่เทียบกันไม่ได้

ดร.มหาเธร์ มุฮัมมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเคยให้สัมภาษณ์ว่า “หากเปรียบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์แล้ว อิสราเอลเรียกชาวปาเลสไตน์ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและพื้นที่มาตุภูมิของตนเองว่า “การก่อการร้าย” แล้วการที่อิสราเอลบุกเข้าไปในพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์ทำร้ายพวกเขาตลอดจนยึดครองดินแดนและขับไล่พวกเขา ตรงนี้จะเรียกว่าอะไร ?” ดังนั้นผู้ก่อการร้ายที่แท้จริงจึงไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์ที่ปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดของตน แต่มันคืออิสราเอลและมหาอำนาจอเมริกาที่ได้ปล้นชิงแผ่นดินของพวกเขาและเข่นฆ่าพวกเขาตลอดเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่ได้มีการสถาปนารัฐก่อการร้ายนามว่าอิสราเอล...

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

สรุปข่าววันพฤ.8 มค.52

นับตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 700 คน เป็นเด็ก 219 คน สตรี 89 และบาดเจ็บอีกกว่า 3,000 คน โดย 46% ของผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงและเด็ก

UN ทำอะไรอยู่...?!?

ข่าว (ไฟล์เสียง)

http://www.pinonlines.com/news/view.php?newsno=0053139

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

สรุปข่าววันพุธ 7/01/52

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ.2552

ทีวีไทยสัมภาษณ์อมีรกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ กรณีฟิเลสตีน

ยิวจอมโหดฆ่าชาวฟิเลสตีนไปอีก 11 คนจากการถล่มฆ็อซซะฮฺ

AP เผยอิสราเอลใช้กระสุนฟอสฟอรัสโจมตีฆ็อซซะฮฺ

นักกีฬาบาสเก็ตบอลยิวหนีจุกตูดที่ตุรกี ผลจากความป่าเถื่อนที่ทำต่อฟิเลสตีน

ตร.สั่งคุ้มครองสถานทูตอิสราเอล

นักการทูตสมุนยิวบอกให้อิยิปต์ช่วยยิวเล่นงานชาวฟิเลสตีน แลกการหยุดยิง

มูบารัค - ซาร์โกซี หารือเรื่องแผนการหยุดยิง

เอกวาดอร์เรียกร้องจับยิวขึ้นศาลข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

นายกตุรกีถามโลก ที่ยิวทำมันถูกต้อง หรือป่าเถื่อน?

ยิวถูกฟิเลสตีนโต้กลับตายอีก 5 ขณะบิ๊กยิวอีก 2 คนบาดเจ็บ

ผู้นำอียิปต์เชิญนายกอิสราเอลเยือนกรุงไคโร

เวเนซุเอลาขับทูตอิสราเอล ประท้วงที่ไปโจมตีชาวฟิเลสตีน

ยูเอ็นถกประเด็นฆ็อซซะฮฺ หลังยิวถล่มโรงเรียนยูเอ็นที่ใช้เป็นศูนย์ลี้ภัย

ยิวถล่มโหดโรงเรียนยูเอ็นในฆ็อซซะฮฺ ยอดตายในที่เดียวพุ่ง 43 คน

ยิวถล่มโรงเรียนยูเอ็นในข่านยูนุส ฆ่าผู้ลี้ภัยฟิเลสตีนตายอีก 2 คน

รัฐบาลไทยมอบความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์

อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียชักชวนประชาชนคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐและเงินดอลล่าร์


ดร.มหาธีร์ มุฮัมมัด เรียกร้องให้ประชาชนต่อต้านการที่สหรัฐหนุนหลังอิสราเอล โดยคว่ำบาตรสินค้าจากสหรัฐ รวมทั้งไม่ใช้เงินสกุลดอลล่าร์ และประชาชนสามารถทำในส่วนนี้ได้เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ ถึงแม้รัฐบาลจะเกรงอำนาจของสหรัฐจนไม่กล้าทำอะไร


ดร.มหาธีร์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ประชาชนต้องทำในส่วนที่ทำได้ โดยร่วมใจกัน เช่น ไม่ซื้อโคคา-โคล่า ไม่รับเงินดอลล่าร์ ซึ่งจะทำให้สหรัฐไม่สามารถค้าขายกับใครได้ จะได้ไม่มีเงินไปผลิตอาวุธมาขายอิสราเอล นอกจากนั้นก็ต้องไม่ซื้ออาวุธจากสหรัฐ ถ้าอยากจะได้อาวุธก็ไปซื้อจากรัสเซียก็ได้ ดร.มหาธีร์ตำหนิสหรัฐที่สกัดกั้นสหประชาชาติ ไม่ให้มีมติเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการในกาซ่า แต่ได้แสดงความคาดหวังในประธานาธิบดีคนใหม่หลังเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ เขายังได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงโอบาม่า เรียกร้องให้ช่วยหยุดการกระทำของอิสราเอล และยังประณามประธานาธิบดีบุชว่า


“ไม่คิดว่าจะมีใครที่เลวได้มากกว่านี้อีกแล้ว”

Source: Alarabiya

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

สรุปข่าววันอังคาร 6/01/52

สรุปข่าววันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ.2552

muslim Thai : Stop iSrael

สำนักข่าวมุสลิมไทย : การประท้วงของมุสลิมไทย วันที่ 2 ดีกรีความร้อนแรงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ


มุสลิมไทยกว่า 1,000 คน เดินขบวนประท้วงการใช้ความรุนแรงของอิสราเอลเป็นวันที่สองแล้ว ซึ่งการประท้วงในวันนี้ มีกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติเป็นแกนนำ

การประท้วงเป็นไปอย่างสงบ มีการขึ้นปราศัยโดยนักวิชาการหลายท่าน โดยแต่ละท่านได้อธิบายถึงที่ไปและที่มาของปัญหา พร้อมประณามการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ โดยที่ไม่ใส่ใจต่อสิทธิมนุษย์ชน พร้อมกันนั้นได้กล่าวถึงประเทศอเมริกา ที่ใช้คำว่าสิทธิมนุษย์ชน กับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ในขณะที่มุสลิมชาวปาเลสไตน์ถูกกระทำย่ำยี กลับนิ่งดูดาย

พร้อมกันนั้นยังกล่าวถึงพฤติกรรมของอิสราเอล ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษย์ชาติอย่างแท้จริง เป็นการท้าทายข้อตกลงและกฏหมายระหว่างประเทศต่างๆ อย่างชัดเจน

โฆษกกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ ได้เปิดรับอาสาสมัคร เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องปาเลสไตน์ และรวบรวมเงินจากการที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้บริจาคให้มาหลายแสนบาทแล้ว

กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและผู้นำประเทศมุสลิมอำนวยความสะดวกให้กับอาสาสมัครของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวปาเลสไตน์โดยด่วนที่สุด














เราต้องประณามอิสราเอล


ใจ อึ๊งภากรณ์ เลี้ยวซ้าย


ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทั่วโลก ต้องประณามความป่าเถื่อนของอิสราเอลในการโจมตีฆ่าชาวปาเลสไตน์อีกครั้งหนึ่ง การโจมตีครั้งนี้มีข้อสังเกตสำคัญๆ ดังนี้


1. รัฐบาลจักรวรรดินิยมตะวันตกหนุนหลังอิสราเอลอย่างเต็มที่ เพราะอิสราเอลเป็นสุนัขรับใช้ของรัฐบาลดังกล่าว ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อิสราเอลมีหน้าที่ในการสร้างปัญหาให้กับชาวอาหรับในตะวันออกกลาง เหตุผลพื้นฐานคือการพยายามคุมน้ำมันโดยสหรัฐ อิสราเอลสามารถทำในสิ่งที่สหรัฐไม่อยากทำตรงๆ และอย่าหวังว่าประธานาธิบดีโอบามาจะมีนโยบายใหม่ที่แตกต่างออกไป


2. สื่อตะวันตกมองว่าคนอิสราเอลหนึ่งหรือสองคนที่ตายไปจากการยิงจรวดของฮามาส มีค่าเท่ากับคนปาเลสไตน์สามร้อยกว่าคนที่ถูกอิสราเอลฆ่าในกาซา


3. การกระทำของอิสราเอลมีสาเหตุเฉพาะหน้ามาจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะนักการเมืองกำลังพิสูจน์ความเป็น “นักทำสงคราม” เพื่อหาคะแนนเสียง


4. อิสราเอล พร้อมจะใช้ความป่าเถื่อนกับชาวปาเลสไตน์มาตลอด ผู้นำอิสราเอลหน้าด้านอ้างว่าเป็นการ “สั่งสอน” ชาวปาเลสไตน์ “ไม่ให้รุนแรง” นอกจากนี้มีการโกหกว่าเป็นวิธีกดดันไม่ให้คนปาเลสไตน์เลือกผู้นำที่ “หัวรุนแรง” แต่ประเด็นคือ รัฐบาลตะวันตกต้องเลิกสนับสนุนอิสราเอล ต้องมีการลุกฮือประท้วงของประชาชนในตะวันตกและในประเทศรอบข้างของตะวันออก กลาง เพื่อบังคับให้อิสราเอลถอนตัวออกจากพื้นที่ที่เคยยึดไว้ และเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์สามารถปกครองตนเองอย่างเสรี ในที่สุดควรมีการรื้อถอนโครงสร้างรัฐอิสราเอลที่สร้างขึ้นมาภายใต้ลัทธิ “ไซออนิสม์”


5. ในประเทศไทย เราต้องประณามอิสราเอล และเรียกร้องให้กองทัพไทยยกเลิกการร่วมมือทางทหารกับอิสราเอลที่ทำมาตลอด นอกจากนี้เราต้องเตือนพี่น้องประชาชนไม่ให้ไปหางานทำในอิสราเอล เพราะมีผลกระทบในด้านลบกับพี่น้องชาวปาเลสไตน์

เบื้องหลัง60ปีแห่งความปวดร้าวของปาเลสไตน์ และความป่าเถื่อนของอิสราเอล
ความ ปวดร้าวและความป่าเถื่อนในตะวันออกกลางที่เราเห็นในจอโทรทัศน์อย่างต่อ เนื่องเป็นปีๆ ไม่ใช่การต่อสู้ทางศาสนาหรือเชื้อชาติแต่อย่างใด แต่มันเป็นผลของการแทรกแซงโดยมหาอำนาจจักรวรรดินิยมตะวันตก เพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่สำคัญที่สุดสำหรับระบบอุตสาหกรรมของทุนนิยม…”น้ำมัน” นั้นเอง และในขณะที่สื่อไทยและตะวันตกพยายามสร้างภาพว่าองค์กรของชาวปาเลสไตน์ เช่นฮามาส (Hamas) เป็น พวก “หัวรุนแรง” หรือพวก “ก่อการร้าย” การศึกษาประวัติศาสตร์และข้อมูลจากพื้นที่เพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เราเห็นว่า เป็นการโกหกทั้งสิ้น

รัฐอิสราเอล
รัฐอิสราเอลถูกสร้างขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นยามเฝ้าน้ำมันในตะวันออกกลาง ของอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา อิสราเอลมีหน้าที่หลักในการเป็นพันธมิตรของตะวันตก เพื่อสกัดกั้นและไล่กัดกระแสชาตินิยมอาหรับ ที่ต้องการควบคุมน้ำมันเพื่อประโยชน์ของคนในพื้นที่ แทนประโยชน์ของบริษัทข้ามชาติตะวันตก รัฐอิสราเอลเป็นรัฐเหยียดเชื่อชาติเพราะเป็นรัฐที่กีดกันคนที่ไม่ใช่ชาวยิว และที่สำคัญคือถูกสร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านเกิดด้วยความรุนแรงโหดร้ายทารุณ บ่อยครั้งมีการเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อฆ่าชายหญิงและเด็ก ซึ่งเป็นวิธีสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวปาเลสไตน์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ชาวปาเลสไตน์หมดกำลังใจในการต่อสู้ และหลบหนีออกจากพื้นที่จนกลายเป็นผู้ลี้ภัยถาวรในค่ายรอบๆ อิสราเอล

การสร้างรัฐอิสราเอลไม่ได้สร้างสันติภาพแต่อย่างใด เพราะอิสราเอลพยายามขยายพื้นที่และพรมแดนผ่านการทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์ รวมถึงมีการสร้างหมู่บ้านใหม่ให้ชาวยิวที่อพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อิสราเอลพยายามคุมชาวปาเลสไตน์ในกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ จอร์แดน ด้วยการสร้างภาพลวงตาว่าให้อำนาจในการปกครองตนเอง แต่ที่จริงมีการสร้างกำแพงล้อมรอบชุมชนชาวปาเลสไตน์ จนชุมชนของชาวปาเลสไตน์กลายเป็นคุกยักษ์ใหญ่เพื่อกักกันคนของอิสราเอล (ดูภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “กำแพงเหล็ก”)

ลัทธิความคิดที่ใช้ในการสร้างรัฐเหยียดเชื้อชาติอิสราเอลนี้ เรียกว่าลัทธิ “ไซออนิสม์” (Zionism) ซึ่งเป็นแนวความคิดชาตินิยมขวาสุดขั้ว สิ่งที่สำคัญที่เราต้องเข้าใจคือคนยิวส่วนใหญ่ทั่วโลกไม่ได้เป็นไซออนิสต์ และมีชาวยิวไม่น้อยที่ไม่สนับสนุนการกระทำของอิสราเอล นอกจากนี้ชาวยิวจำนวนหนึ่งเป็นนักสังคมนิยม ในอดีตมีคนดังๆ เช่น เช่นคาร์ล มาร์คซ์, ลีออน ตรอทสกี, โรซา ลัคแซมเอร์ค และ โทนี่ คลิฟเป็นต้น ชาวยิวนักสังคมนิยมในยุคนี้มักจะสนับสนุนการปลดแอกตนเองของชาวปาเลสไตน์ และปฏิเสธการสร้างลัทธิที่ก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างเชื้อชาติ

สรุปแล้วคนที่คัดค้านอิสราเอลไม่ควรเกลียดชังชาวยิวทั้งหมด โดยเฉพาะประชาชนธรรมดา

สาเหตุที่แนวคิดไซออนิสม์มีอิทธิพลสูงในปัจจุบัน เกิดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพรรคนาซีภายใต้ฮิตเลอร์ในประเทศเยอรมัน (ที่เรียกว่า Holocaust) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองฮิตเลอร์กับพรรคพวกฆ่าชาวยิวไป 6 ล้าน คน แต่โศกนาฏกรรมของการสร้างรัฐอิสราเอลคือ พวกผู้นำอิสราเอลอ้างถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์ เพื่อหันมาล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งมีผลให้ทั้งชาวยิวและชาวปาเลสไตน์มีชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามอย่างต่อ เนื่อง คำถามคือใครได้ประโยชน์? และทางออกในการแก้ไขปัญหาคืออะไร?

สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจในยุคปัจจุบันคืออิสราเอลเป็นสมุนของสหรัฐ ไม่ใช่ว่าสหรัฐสนับสนุนอิสราเอลเพราะชาวยิว“คุมเศรษฐกิจและการเมืองสหรัฐ”อย่าง ที่บางคนเชื่อ เพราะจริงๆ แล้ว สหรัฐและประเทศตะวันตกไม่สนใจความเป็นอยู่ของชาวยิวธรรมดาในอิสราเอลเลย พร้อมจะให้เขามีชีวิตในสภาพสงครามถาวรมาตลอด และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ท่ามกลางความป่าเถื่อนของฮิตเลอร์ ประเทศเหล่านี้ไม่ยอมให้คนยิวที่หนีออกจากเยอรมันเข้ามาลี้ภัยในประเทศของตน เอง

การสนับสนุนอิสราเอลของตะวันตกกลายเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจกับผู้นำไซออนิสต์ของ อิสราเอลในการใช้นโยบายก้าวร้าวและรุนแรง เพราะอิสราเอลเป็นประเทศที่ได้รับอาวุธและเงินทุนมากที่สุดจากสหรัฐ และเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่แอบสร้างระเบิดนิวเคลียร์ โดยที่มหาอำนาจตะวันตกไม่เคยประณามอิสราเอลแต่อย่างใด

อิสราเอล มีประโยชน์ต่อตะวันตก เพราะมักจะกล้าทำสิ่งที่สหรัฐหรืออังกฤษไม่กล้าทำอย่างเปิดเผย ประชาชนในตะวันตกจะคอยตรวจสอบรัฐบาลของตนเองอยู่เสมอ แต่ในอิสราเอลประชาชนชาวยิวถูกมอมเมาด้วยลัทธิชาตินิยมไซออนิสม์ ดัง นั้นอิสราเอลมักก่ออาชญากรรมสงครามอย่างเปิดเผยและง่ายดาย โดยที่ตะวันตกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตัวอย่างเช่นการเข้าไปยึดเลบานอนและการฆ่าพลเรือนหลายพันคนในค่ายลี้ภัย การทิ้งระเบิดประเทศรอบข้าง และการพยายามล้มรัฐบาลฮามาสของชาวปาเลสไตน์ นอกจากนี้บ่อยครั้งการกระทำของอิสราเอลจะถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อให้สหรัฐและ สหประชาชาติกดดันประเทศอาหรับ เช่น ซิเรีย หรืออิหร่าน ในกรณีวิกฤตคลองซุเอสปี 1956 อังกฤษและฝรั่งเศสก็เคยใช้การกระทำของอิสราเอลเป็นข้ออ้างในการบุกอียิปต์

ดังนั้นเราต้องคัดค้านนโยบายการทำสงครามของสหรัฐกับอังกฤษ และนโยบายก้าวร้าวของอิสราเอลพร้อมๆ กัน เราถึงจะสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางได้

ฮามาส (Hamas) คือใคร?
ฮามาสคือองค์กรทางการเมืององค์กรหนึ่งของชาวปาเลสไตน์ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็น รัฐบาลของชาวปาเลสไตน์ตามระบบประชาธิปไตย ฮามาสใช้แนวคิดอิสลามและถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากที่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากมอง ว่า องค์กรกู้ชาติปาเลสไตน์ ที่ชื่อ Palestinian Liberation Organisation(P.L.O.) หมดสภาพในการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากP.L.O. มีจุดยืนจำยอมต่ออิสราเอลกับสหรัฐ และกลายเป็นองค์กรหากินแบบทุจริตของนักการเมืองบางคน แต่พอ ฮา มาส ได้รับเลือกตั้ง รัฐบาลตะวันตกไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและตัดเงินสนับสนุนทุกอย่างที่เคยให้ ชาวปาเลสไตน์ ส่วนอิสราเอลก็มีการวางแผนเพื่อใช้กำลังทหารล้มรัฐบาลฮามาส ในขณะเดียวกันอิสราเอลและตะวันตกพยายามสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวปาเลสไตน์ ด้วยการหนุนหลังนักการเมืองของ P.L.O. เช่นประธานาธิบดีอาบัส ในที่สุดอาบัสทำรัฐประหารยึดอำนาจในเขตฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งนำไปสู่การยึดอำนาจของฮามาสในกาซา

ฮามาสได้รับการสนับสนุนจากประชาชนปาเลสไตน์เพราะมีความจริงใจในการต่อสู้กับ อิสราเอล แต่อิสราเอลมักโต้ตอบด้วยการถล่มบ้านเมืองของปาเลสไตน์อย่างรุนแรง นอกจากนี้มีการพยายามปิดล้อมกาซาเพื่อไม่ให้ประชาชนมีเชื้อเพลิง อาหารและยารักษาโรค แต่ในที่สุดฮามาสสามารถพังกำแพงให้คนเข้าไปซื้อของในประเทศอียิปต์ได้ ส่วนรัฐบาลอียิปต์ที่เลิกสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และหันมาเป็นพันธมิตรที่ดีของ สหรัฐมาหลายสิบปีแล้ว ไม่สามารถปิดกั้นชาวปาเลสไตน์ที่พังกำแพง เพราะขบวนการภาคประชาชนภายในอียิปต์ออกมาสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เหตุการณ์นี้พิสูจน์ว่ารัฐบาลอาหรับไม่ใช่ที่พึ่งของชาวปาเลสไตน์ แต่เพื่อนแท้ของเขาคือขบวนการภาคประชาชนต่างหาก ที่มักคัดค้านรัฐบาลเผด็จการอาหรับ

คนไทยเกี่ยวข้องกับปัญหานี้อย่างไร?
หลาย คนอาจหลงคิดว่าปัญหาตะวันออกกลางไม่เกี่ยวกับเรา แต่รัฐบาลไทยทุกชุดมีจุดยืนสนับสนุนจักรวรรดินิยมอเมริกา ล่าสุดคือการส่งทหารไทยไปช่วยยึดครองอิรักสมัยรัฐบาลทักษิณ การหนุนสหรัฐช่วยให้สหรัฐและอิสราเอลทำลายชีวิตของชาวปาเลสไตน์ และช่วยเสริมอำนาจต่อรองของสหรัฐในเรื่องที่มีผลกระทบโดยตรงกับเราในประเทศ ไทย เช่นสัญญา F.T.A.

ยิ่งกว่านั้นทหารไทยมีความผูกพันใกล้ชิดกับกองทัพและรัฐบาลอิสราเอลมาตลอด ซึ่งมีผลให้รัฐบาลไทยช่วยอิสราเอลกดขี่ชาวปาเลสไตน์ และช่วยให้ทหารกดขี่ประชาชนไทยโดยการทำลายประชาธิปไตยเป็นระยะๆ

ในอิสราเอลมีคนงานไทยไปทำงานจำนวนมาก ซึ่งช่วยหนุนนโยบายก้าวร้าวของอิสราเอล และช่วยให้ให้อิสราเอลปลดคนงานปาเลสไตน์ออกจากงานได้มากขึ้น ร้ายสุด คนงานไทยไปช่วยพวก ไซออนนิสต์ สุดขั้ว ทำไร้เกษตรบนพื้นดินที่ขโมยจากชาวปาเลสไตน์ และการที่คนไทยต้องไปหางานในประเทศอย่างอิสราเอลทำให้เสี่ยงภัยสงคราม และมาจากการละเลยปัญหาความยากจนของคนภายในประเทศเราเอง

ปัญหาของชาวปาเลสไตน์เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับปัญหาสามจังหวัดชายแดนอีกด้วย เพราะการกดขี่ชาวปาเลสไตน์หรือชาวมุสลิมมาเลย์ในสามจังหวัด เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ถ้าจะแก้ปัญหาเหล่านี้เราต้องกดดันให้มีการเคารพสิทธิของคนทั่วโลกที่จะ กำหนดอนาคตของตนเอง และสิทธิของประชาชนที่จะได้รับความยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติบนพื้นฐาน เชื้อชาติหรือศาสนา ประเด็นปัญหาตะวันออกกลางพิสูจน์ว่าภาคประชาชนทั่วโลกต้องรวมตัวกันต่อต้าน คู่แฝดจากนรก: สงครามจักรวรรดินิยม และกลไกตลาดเสรี และในการต่อต้านความโหดร้ายของทุนนิยมดังกล่าว เราต้องสร้างความสมานฉันท์กับชาวปาเลสไตน์ สันติภาพจะมาสู่ตะวันออกกลางได้ก็ต่อเมื่อจักรวรรดินิยมตะวันตกถูกบังคับให้ ถอนตัวออกไป ซึ่งจะกดดันอิสราเอลให้ยุติความก้าวร้าว แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งประชาชนธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอาหรับ ปาเลสไตน์ ยิว หรือเชื้อชาติอื่นๆ จะต้องมีโอกาสที่จะร่วมกันกำหนดอนาคตของตนเองโดยไม่ต้องใช้อาวุธ ทุกฝ่ายต้องมีพื้นที่ยืนของตนเอง ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งมีรัฐและคุมพื้นที่ได้ ในขณะที่อีกฝ่ายต้องเป็นผู้ลี้ภัยถาวร

ลำดับเหตุการณ์สำคัญในปาเลสไตน์/อิสราเอล
1840 มหาอำนาจตะวันตกเริ่มแทรกแซงตะวันออกกลาง มีการแต่งตั้งผู้นำและขีดเส้นพรมแดนเพื่อคุมน้ำมัน
1936 ฮิตเลอร์ขึ้นมาเป็นเผด็จการในเยอรมัน ฆ่าคนยิว 6 ล้านคน
1930-1945 อังกฤษใช้วิธีแบ่งแยกและปกครองเพื่อสร้างปัญหาระหว่างชาวปาเลสไตน์กับชาวยิวในตะวันออกกลาง
1946 ชาวปาเลสไตน์ เริ่มถูกขับไล่ออกจากพื้นที่บ้านเกิด โดยกลุ่มก่อการร้าย ไซออนิสต์
1948 ชาวบ้านปาเลสไตน์ ทั้งชาย หญิงและเด็ก ถูกสังหารถึง 300 คน ในหมู่บ้าน Deir Yassin โดยผู้ก่อการร้ายไซออนิสต์
ในที่สุดคนปาเลสไตน์ 750,000 คนต้องหนีออกไปอยู่ในค่ายลี้ภัยในอียิปต์ จอร์แดน และเลบานอน
1948 พวกไซออนิสต์สถาปนารัฐอิสราเอล แต่ชาวปาเลสไตน์ไม่มีรัฐของตนเองมาจนทุกวันนี้
1967 สงครามระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับรอบข้าง อิสราเอลยึดพื้นที่เพิ่มขึ้นจากอียิปต์ จอร์แดนและซิเรีย
1975 ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากถูกขับไล่ออกจากประเทศจอร์แดน และเข้ามาในเลบานอน
1975-1976 สงครามกลางเมืองในเลบานอนระหว่าง Maronite ซึ่งเป็นฝ่ายขวาฟาซิสต์ที่มีอิสราเอลหนุนหลัง กับแนวร่วมซ้ายซึ่งประกอบไป
ด้วยกลุ่มปาเลสไตน์กับกลุ่มอิสลามพื้นเมือง ฝ่ายซ้ายมีแนวโน้มจะชนะ แต่ซิเรียส่งกองทัพมายับยั้งชัยชนะ โดยได้รับคำชมจากสหรัฐ
1982 สงครมกลางเมืองครั้งที่สองในเลบานอน อิสราเอลส่งกองทัพเข้ามายึดเลบานอนภายใต้ข้ออ้างว่าต้องปราบชาวปาเลสไตน์ อิสราเอล
ทำลายเมืองเบรุทและฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวปาเลสไตน์ แต่ในที่สุดขบวนการเฮสโบลาห์สามารถไล่อิสราเอลออกไปได้ ก่อนหน้านั้นทหาร
“รักษาความสงบ” ของสหรัฐต้องถอนตัวออกหลังถูกระเบิดพลีชีพในปี 1984
1993 P.L.O. กับอิสราเอลเจรจาสันติภาพ P.L.O. ยอมรับรัฐอิสราเอลและอิสราเอลให้ P.L.O. “ปกครองตนเอง” ในเขตฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ
จอร์แดนและกาซา ภายใต้การควบคุมของรัฐอิสราเอลเหมือนเป็นเมืองขึ้น
2000 กระบวนการสันติภาพต้องยุติ เพราะอิสราเอลไม่ยอมเลิกขยายชุมชนชาวยิวในพื้นที่ปาเลสไตน์ นักรบของฮามัสมีบทบาทมากขึ้น
2006 อิสราเอลโจมตีกาซาเพื่อทำลายรัฐบาลฮามาสที่มาจากการเลือกตั้ง และก่อสงครามอีกครั้งกับเลบานอน
2008/9 อิสราเอลโจมตีกาซาอีกครั้ง

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

ชาวก็อซซะฮฺร่วมญะนาซะฮฺ อัชชะฮีด(อินชาอัลลอฮฺ) เชครอยยาน และครอบครัว

ชาวฟิเลสตีนนับพันร่วมญะนาซะฮฺ อัชชะฮีด(อินชาอัลลอฮฺ) เชครอยยาน และครอบครัวของท่าน ณ วันศุกร์ที่ 2 ม.ค. 51 หน้ามัสญิดอัลคุละฟาอฺ
อัชชะฮีด(อินชาอัลลอฮฺ) เชคนิซาร รอยยาน ศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายชารีอะห์วัย 49 ปี ถูกกองกำลังก่อการร้ายอิสราเอลใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด หนัก 2,000 ปอนด์ ถล่มบ้านพักของท่านเมื่อวันพฤหัสบดี(1)ที่ผ่านมา บ้านพักของท่านเป็นอาคาร 4 ชั้นตั้งอยู่ในเมืองญะบัลลิยะห์ ทางตอนเหนือของก็อซซะฮฺ ซึ่งถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังที่เครื่องบินอิสราเอลทิ้งระเบิด เข้าใส่ ในเหตุนี้มีผู้ชะฮีด(อินชาอัลลอฮฺ)ทั้งหมด 18 คน ซึ่งเป็นภรรยา 4 คนของท่าน รวมถึงลูกๆ อีก 12 คน รวมถึงตัวท่านด้วย
ก่อนหน้าที่กลุ่มก่อการร้ายอิสราเอลจะก่ออาชญากรรมฆ่ายกครอบครัวท่านเพียงหนึ่งวันเชครอยานได้ให้สัมภาษณ์กับสถานี โทรทัศน์ฮามาสว่า

"บรรดานักรบทั้งหลายเอ๋ย จงรู้ไว้ว่าเราจะชนะ"

และบอกอีกว่า "อัลลอฮได้สัญญาไว้


สำหรับชัยชนะของผู้เสียสละในศาสนา

อัลลอฮยิ่งใหญ่กว่าพวกมัน


อัลลออฮนั้นยิ่งใหญ่กว่าเครืองบินของพวกมัน


และอัลลออฮนั้นยิ่งใหญ่ว่าจรวดของพวกมัน"

รวมภาพการละหมาดญะนาซะฮฺ














จากอัลกุรอ่าน

“ แท้จริงนั้นพวกเขาได้แสวงหาความวุ่นวาย มาก่อนแล้ว

และวางแผนต่างๆ นานาเพื่อต่อต้านเจ้า

จนกระทั่งความจริงได้มา และพระบัญชาของอัลลอฮ์ได้ประจักษ์ขึ้น

ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่พอใจ ”

(ซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ อายะฮฺ 48 )

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

เปิดโปง อิสราเอล!


ข่าววันที่ 3 ม.ค.52


ยิวชั่วถล่มมัสยิดญาบัลยะฮฺ ชาวฟิเลสตีนลั่นต้องล้างแค้น


อิสราเอลชั่วยิงขีปนาวุธถล่มมัสยิดพังยับหลังฆ่ายกครัวครูสอนศาสนาชาวฟิเลสตีน ประชาชนประกาศลั่นหยาดเลือดของท่านต้องไม่สูญเปล่า พวกยิวต้องถูกล้างแค้น

มัสยิดญาบัลยะฮฺ ถูกถล่มจากการก่อการร้ายทางอากาศของอิสราเอลจนพังยับเยินทั้งอาคาร หลังกลุ่มก่อการร้ายอิสราเอลได้ก่ออาชญากรรมสงครามฆ่ายกครอบครัวเชคนีซาร์ รอยาน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอิสลามวัย 49 ปีพร้อมภรรยา 4 คนและบุตรอีก 10 คน พร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คนคาบ้านพักในค่ายผู้อพยพญะบัลยะฮฺ ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้นหลังถูกเครื่องบินก่อการร้ายของอิสราเอลทิ้งระเบิดขนาด 1 ตันเข้าใส่จนอาคารกลายเป็นกองเศษอิฐในพริบตา ชาวฟิเลสตีนต่างพากันคุ้ยเขี่ยซากอิฐหินพร้อมกับตะโกนก้องจะแก้แค้นให้ได้ โดยประกาศว่า "หยาดเลือดของนายนีซ่า รายัน และครอบครัวจะต้องไม่สูญเปล่า แค้นนี้จะต้องได้รับการชำระอย่างสาสม" เชครอยาน เป็นครูสอนศาสนาที่เป็นที่รักของชาวฟิเลสตีนทุกคน เพราะหลายครั้งที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดานักรบประชาชนในดินแดนก็อซซะฮฺโดยไม่หวั่นเกรงอันตรายใดๆ จากการก่อการร้ายของอิสราเอล

ขณะที่นางซีปี ลีฟนี รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลได้กล่าวหลังจากหารือกับประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศสว่าปฏิบัติการโจมตีดินแดนก็อซซะฮฺประสบผลสำเร็จ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของอิสราเอลที่จะยุติการโจมตีลงได้ และอ้างว่ายังไม่เกิดวิกฤติการณ์ด้านมนุษยธรรมในดินแดนก็อซซะฮฺ ดังที่ได้เห็นกันตามภาพข่าวไปทั่วโลกแต่อย่างใด

ทั้งนี้เป้าหมายในการก่อการร้ายของอิสราเอลครั้งนี้อยู่ที่ โรงเรียน มัสยิด โรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชนในดินแดนก็อซซะฮฺ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 420 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ทำให้โรงพยาบาลที่ส่วนมากได้รับความเสียหายจากการก่อการร้ายของอิสราเอล ไม่สามารถรองรับผู้บาดเจ็บได้ นอกจากนี้ยังขาดแคลนยา และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์จำนวนมาก จากการที่กลุ่มก่อการร้ายอิสราเอลได้ปิดกันสิ่งของบรรเทาทุกข์ไม่ให้ส่งเข้ามายังดินแดนก็อซซะฮฺ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวฟิเลสตีนได้ รวมถึงการขาดแคลนไฟฟ้าใช้ ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้จำนวนของผู้เสียชีวิตพุงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ขณะนี้



ชาวฟิเลสตีนในเวสต์แบงค์ร่วมประท้วงการก่อการร้ายของยิว


ประชาชนหลายหมื่นคน ได้ออกไปประท้วงทั่วเวสต์แบงค์หลังเสร็จสิ้นการละหมาดยุมอัต เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชนในดินแดนก็อซซะฮฺ เรียกร้องให้เกิดเอกภาพในปาเลสไตน์ พร้อมระบุว่าบรรดาชาติอาหรับ ที่ไม่ยอมแสดงท่าทีใด ๆ ต่อปฏิบัติการก่อการร้ายของอิสราเอลโจมตีดินแดนก็อซซะฮฺ ผู้ประท้วงในกาลันดิยา รามัลเลาะห์ , เบธเลเฮม , นาบลัส และกัลกิลิยา ได้โบกธงปาเลสไตน์ และเผาธงชาติอิสราเอล ขณะร้องตะโกนคำขวัญต่าง ๆ

ในเมืองกาลันดิยาและกัลกิลิยานั้น ทหารอิสราเอล ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงจนผู้ประท้วงต้องขว้างก้อนหินเข้าใส่เพื่อตอบโต้ มีถนนบางสายที่วัยรุ่นพากันวิ่งหนีแก๊สน้ำตา และมีบางคนที่หยิบเอากระสุนแก๊สน้ำตากว้างกลับคืนไป ส่วนผู้ประท้วงอื่น ๆ ได้จุดไปเผาเศษขยะบนถนน รวมถึงถังขยะที่วางเรียงรายอยู่ด้วย แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการก่อการร้ายอันป่าเถื่อนของอิสราเอลที่มีเป้าหมายที่โรงพยาบาล โรงเรียน มัสยิด และบ้านพักอาศัยของประชาชนทั่วไป ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 420 คน และบาดเจ็บมากกว่า 2,200 คน ขณะผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 25 เป็นผู้หญิง และเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุไม่ถึง 2 ขวบหลายคนถูกฆ่าตายในปฎิบัติการอันป่าเถื่อนครั้งนี้ด้วย


ชาวฟิเลสตีนต้องเข้าคิวรับบริจาคอาหาร


ชาวฟิเลสตีน ได้เข้าแถวยาวที่หน้าบีช ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ ของสำนักงานการทำงานและการบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ หรือ UNRWA ในดินแดนก็อซซะฮฺ เพื่อรับแจกถุงบรรจุอาหาร ขณะที่การก่อการร้ายทางอากาศอันป่าเถื่อนโหดร้ายของอิสราเอลต่อชาวฟิเลสตีน ยังคงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกาซ่า 1.5 ล้านคน กำลังเผชิญสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่น่าวิตก จากปฏิบัติการโหดอย่างต่อเนื่องของอิสราเอล

อิสราเอล ได้เปิดจุดผ่านแดนไปยังกาซ่า เพื่อให้ขบวนรถบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซ่า บางส่วนเป็นรถบรรทุกเวชภัณฑ์ และเครื่องปั่นใฟที่เดินทางมาจากอิยิปต์ผ่านเข้าทางจุดผ่านแดนเราะฟะห์ ซึ่ง UNRWA ได้เรียกร้องให้ขอความช่วยเหลือด้านอาหาร เวชภัณฑ์และสินค้าจำเป็นอื่น ๆ เป็นมูลค่า 34 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 1 พันล้านบาท แต่สิ่งที่อิสราเอลยอมให้ผ่านเข้ามายังดินแดนก็อซซะฮฺ นั้นยังได้ไม่ถึงเศษเสี้ยวของความขาดแคลนที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งนี้

คณะกรรมการอิสลามฯ สงขลา ประณามอิสราเอลถล่มฟิเลสตีน


สำนักข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการรายงานว่าคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ประณามอิสราเอลถล่มฟิเลสตีน เรียกร้องมุสลิมทั่วโลกร่วมต่อสู้ และให้รัฐบาลไทยแสดงจุดยืน

วานนี้ (2 ม.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ร่วมกับสมาคมมุสลิมหาดใหญ่ สมาคมครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จ.สงขลา และองค์กรอิสลามต่างๆ ในจ.สงขลา รวมกันออกแถลงการณ์ เรื่อง การสังหารหมู่ประชาชนชาวปาเลสไตน์(ฟิเลสตีน)โดยรัฐบาลอิสราเอล คือมูลเหตุแท้จริงของการก่อการร้ายทั่วโลก

แถลงการณ์ส่วนหนึ่งซึ่งอ่านโดย นายอาศิส พิทักษ์คุมพล ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ระบุว่า “ปฎิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์(ฟิเลสตีน) ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ส่งท้ายปี 2008 ซึ่งได้สังหารชีวิตพลเรือนไปแล้ว 385 คน บาดเจ็บ 1,750 คน แม้จะถูกประณามจากทั่วโลก แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา รวมทั้งพหุภาคีระดับโลกทั้งหลาย มักจะหรี่ตาทำเป็นมองไม่เห็นเสียและยังขัดขวางมติใด ๆ ที่จะลงโทษอิสราเอลเสมอ ขณะที่จะรีบลงโทษหรือประณามกลุ่ม ประเทศใด ก็ตามทีทำให้อิสราเอลเกิดความเสียหาย สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่ามหาอำนาจไม่ได้มีความจริงใจที่จะพิทักษณ์ปกป้องชีวิต ของผู้อ่อนแอ และไม่มีความตั้งใจที่จะผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรมที่กล่าวอ้างอยู่เสมอแต่ อย่างใด

ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลจึงเป็นชนวนเหตุสำคัญของความไม่สงบและ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก ทั้งนี้เพราะการกระทำของอิสราเอลเป็นการก่อการร้ายที่รุนแรงยิ่ง และหากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกยังคงเพิกเฉยเย็นชาต่อปฏิบัติการนี้โลกอาจจะหาความสงบร่วมเย็นไม่ได้ อีกเลย”

สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจ.สงขลา จึงขอประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของอิสราเอลในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้มุสลิมทั่วโลกร่วมต่อสู่ ร่วมเจ็บปวดและยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนชาวปาเลสไตน์(ฟิเลสตีน) และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแสดงจุดยืนที่แสดงถึงความรักในความยุติธรรม และความเห็นอกเห็นใจผู้ถูกข่มเหงรังแก และขอเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจและองค์การสหประชาชาติใช้สรรพกำลังที่มี อยู่ทั้งหมดผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งความสงบร่วมเย็นของประชากรโลกทั้งหมดต่อไป

ที่มา : http://www.pinonlines.com/

ประกาศ


ขณะนี้พี่น้องฟิลิสฏีนของเรายังคงอยู่ในภาวะลำบาก
เราในฐานะพี่น้องแดนไกลก็มีส่วนร่วมได้หลายอย่าง
อย่างน้อยที่สุดก็คือ ร่วมเจ็บปวดกับเรือนร่างเดียวกัน
วิงวอนดุอาอฺต่ออัลลอฮฺด้วยความจริงใจ (ศึกษาใน ดุอาอฺกุนูตนะวาศิล)
สนับสนุนด้วยกำลังทรัพย์ ความสามารถ และชีวิต
เพียงแค่เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า
เราคิดจะทำอะไรบ้าง และได้ทำแค่ไหน
(ศึกษาเพิ่มเติมใน คู่มือมุมินในภาวะศึกสงคราม)
กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติขอเชิญพี่น้องมุสลิมีนรวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืน
วันอังคารที่ 6 มกราคม 2552 นี้ พบกัน 8.00 น.
ณ มูลนิธิศูนย์กลางแห่งประเทศไทย
สำหรับมุสลิมะฮฺก็ควรมีส่วนแข็งขันในการกระจายข่าว
และกระตุ้นเตือนคนในครอบครัวให้ตื่นตัวด้วย...
(بنات الهدى )




เราจะช่วยเหลือพี่น้องในฆ็อซซะฮฺได้อย่างไร?


โดย ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิฮฺ มุนัญญิด

1- ท่านต้องวอนขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ และอ่านดุอาอฺกุนูตในการละหมาดของท่าน

2- รวบรวมเงินบริจาคและส่งมันผ่านช่องทางที่สามารถเชื่อถือได้

3- สนับสนุนพี่น้องผู้อ่อนแอและถูกกดขี่ของพวกเราในทุก ๆ ทาง รวมถึงทางสื่อมวลชนและอินเตอร์เน็ต

4- ให้บรรดาอุละมาอฺ,นักดะอฺวะฮฺ และนักเขียนทั้งหลายชี้แจงอธิบายถึงการกดขี่ข่มเหงที่เกิดขึ้นนี้ ตลอดจนการนิ่งเฉยไม่เอาใจใส่ของส่วนอื่นๆในอุมมะฮฺของเรา เพื่อที่จะปลุกระดมให้อุมมะฮฺนี้ลุกขึ้นมาปกป้องดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์

5- ตรวจสอบเจตนาของแต่ละคนถึงความปรารถนาจะต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ และสำรวจดูซิว่าเขากำลังกระทำตามหะดีษนี้หรือเปล่า :

ท่านร่อซูลศอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ผู้ใดที่ตายลงโดยไม่เคยทำการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ
และไม่เคยมีความตั้งใจที่จะกระทำมัน ดังนั้น
เขาได้ตายลงบนการกลับกลอกชนิดหนึ่ง"
(ศอเฮี๊ยฮฺมุสลิม , 3533)

6- แสวงหาปัจจัยต่างๆที่จะช่วยสร้างเครื่องไม้เครื่องมือและความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับศัตรูในสมรภูมิ

7- ย้ำเตือนตนเองและผู้อื่นถึงความประเสริญของการตายชะฮีดในหนทางของอัลลอฮฺ ศึกษากฎเกณฑ์ในการญิฮาด และอย่ามีเยื่อใยกับโลกดุนยานี้

8- ก่อความเสียหายให้แก่ศัตรูที่ทำสงครามกับมุสลิมให้มากที่สุดเท่าที่จะมีความสามารถ ไม่ว่าจะด้วยการบอยคอตสินค้าของพวกเขา โจมตีพวกเขาด้วยวาจา เขียนประณามและทำให้พวกเขาเจ็บแค้น เปิดโปงความกุฟรฺของพวกเขา และการละเมิดที่พวกเขามีต่ออัลลอฮฺ รอซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธา พยายามเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเชื่อมโยงมันเข้ากับความศรัทธาของมุสลิม และถ้อยคำของอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์
เราวอนขอต่ออัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงยิ่งใหญ่ โปรดทรงช่วยเหลืออัด-ดีนของพระองค์ และโปรดให้ถ้อยคำของพระองค์ประจักษ์เป็นจริงด้วยเถิด

Source : http://alistishhad.wordpress.com/2009/01/01/what-can-we-do-for-gaza

ภาระหน้าที่ของเรา

จงเป็นพยานเถิด โอ้ ประชาชาติที่ประกาศตัวเองว่าเป็นอิสลาม ถึงการร่วมมือร่วมใจยืนอยู่บนแถวเดียวกันเพื่อทำลายล้างอัลอิสลาม แม้ว่าพวกเขาจะมาจากชาติพันธ์เทือกเขา เหล่ากอ และแนวความคิดที่แตกต่างกันแต่พอถึงการทำลายอิสลามพวกเขากลับมาร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว ทำไมที่เรายังไม่สำนึกถึงความจริงข้อนี้บ้างหรือ เรายังต้องการใช้ชีวิตที่สนุก ๆ โดยปล่อยเวลาไปกับกิจกรรมที่ไร้สาระกันต่อไปอีกหรือ เรารู้สึกเพียงพอกับการนับลูกตัสเบี๊ยะฮฺบนพรมละหมาด โดยไม่สนใจถึงสถานการณ์ภายนอก

แท้จริงแล้วพวกเราและพวกที่มัวเมากับทางโลกจะไม่สำนึกต่อสถานการณ์เหล่านี้หรอก และนี่คือโรคร้ายที่กำลังระบาดอยู่ในประชาชาติอิสลามปัจจุบัน ดังที่ได้รับคำยืนยันจากลูกศิษย์ของญะมาลุดดีน อัลอัฟฆอนี คือ อะมีร ชะกีบ อัรสลาน เมื่ออธิบายถึงสาเหตุของความตกต่ำของประชาชาติทุกวันนี้ ความตกต่ำของเราจริง ๆ แล้วมิใช่มีสาเหตุมาจากความด้อยในเรื่องทรัพย์สิน เพราะผู้นำในยุคแรกหรือยุคของท่านรอซูลลุลอฮฺ (ศ็อลฯ) ประสบความยากจนค้นแค้นมากกว่าเรา แต่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า พวกเขาสามารถครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกเอาไว้ได้

แท้จริงแล้ว ความตกต่ำของประชาชาติอิสลามยุคนี้เป็นเพราะว่าเขาเสียดายทรัพย์สินที่จะใช้จ่ายในหนทางของอิสลาม แม้ว่าตามรูปการแล้วเขาจะเป็นผู้ภักดี และแสดงออกถึงนิสัยชอบบริจาคและอะมัลญยะรียะฮฺ แม้ว่าจะมีมุสลิมจำนวนไม่น้อยที่ร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน มีรายได้จากทางการค้า และอื่น ๆ แม้กระนั่นก็ตาม เมื่อถึงการเสียสละ ในวิถีทางของอัลลอฮฺ มันกลับเป็นเรื่องที่น่าสมเพชยิ่งที่เขาไม่เห็นในความสำคัญของการใช้จ่ายดังกล่าว แม้พวกเขาจะมีบ้านเช่าเป็นแถว ๆ

10 แผนการตะวันตกทำลายล้างอิสลาม

บทนำ
หลายต่อหลายครั้งที่พวกตะวันตกประสบความล้มเหลว พ่ายแพ้ในสงครามครูเสดนานถึงเกือบ 2 ศตวรรษที่พวกเขาพยายามวางแผนทำลายล้างอิสลาม กระทั่งพวกเขามีการค้นคว้าศึกษาวิจัยอย่างละเอียดลออเพื่อหาแนวทางทำลายล้างอิสลามและประชาชาตอมุสลิม
ในการศึกษาดังกล่าวพวกเขาประสบความสำเร็จในการวางแผนที่รัดกุม ขณะที่พวกเขาได้ทุ่มเทด้วยความมั่นใจและเป็นการปฏิบัติตามแผนที่พวกเขาได้วางไว้
แผนการที่ 1 : การล้มล้างการปกครองโดยระบอบอิสลาม
แผนการที่ 2 : การลบล้างอัลกุรอ่าน
แผนการที่ 3 : ทำลายระบบจริยธรรม ความคิด ความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมกับพระเจ้าและการปล่อยพวกเขาไปตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ
แผนการที่ 4 : แผนการทำลายเอกภาพมุสลิม
แผนการที่ 5 : สร้างความเคลือบแคลงแก่มุสลิมต่อศาสนาของพวกเขา
แผนการที่ 6 : ทำลายเอกภาพของโลกอาหรับ
แผนการที่ 7 : สร้างรัฐเผด็จการในโลกอาหรับ
แผนการที่ 8 : แยกมุสลิมออกจากการครอบครองอุตสาหกรรม และ มอมเมาสินค้าจากตะวันตก
แผนการที่ 9 : กำจัดบรรดานักคิดอิสลาม และ ทำลายขบวนการเคลื่อนไหวของประชาชาติมุสลิมให้สิ้นสุดลง
แผนการที่ 10 : ทำลายสตรีและขยายสังคมเสรี
อ่านรายละเอียดแต่ละแผนการณ์คลิกที่นี่ http://docs.google.com/View?docid=dc9mn3jc_281cxqjtvdq

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

Amer , Jewish , Eng Goods Boycotted


1 .สิ่งที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายของคุณ
แพนทีน รีจอยซ์ เฮดแอนโชลเดอร์ วิดัลแชชชูน
ออกานิก ซันซิล แอสเซนส์ เฮอร์บัล เอสเซ้น
แครรอล จอห์นสัน แคร ไนซแอนด์อีซี่
เซสท์ เพิทพลัส เซฟการ์ด โพร์เทค
ไอโวรี่ โดฟ ลักส์ ฮาร์โมนี
ปาล์มโอลีฟ ไลฟ์บอย แอคชั่น อิมพี่เรียล
คอลเกต ใกล้ชิด ฟลูออคารีน ลิสเตอรีน
ลิสเตอร์มิ้น ริช อควาเฟรช คาเมย์

2. สิ่งที่ใช้ภายในบ้าน
โอโม่ แฟ้บ บรีส เซิร์ฟ คอมฟอร์ด กีวี
พัฟฟ์ ซันไล เพค เรดด์ ริชเซค วินเด็กซ์
แอ็คซี่ ตราโน 3M สก้อตไบรท์ แอมบิเพอ เกลต
FedEx โกดัก ยิลเลตต์ กระดาษชำระสกอตต์ คลีเนกซซ์
สลัมเบอร์แลนด์ ซีลี่ เชอด้า

3.สิ่งที่ใช้เมื่อถึงวันนั้นของเดือน
วิสเปอร์ โมเดส แคร์พรี โกเด็กซ์ โอบี คิมเบอรลีย์-คลากซ์

4.สิ่งที่ใช้เมื่ออยุ่ในบ้านของคุณผู้หญิง
เรโซนา อิมพัลล์ ซีเคร็ท โอลต์สไปซ์ เรฟลอน
Giorgio Boss-Hugo Boss โอเลย์
ลอรีอัล คลินิก ลังโค เมบิลีน วาสลีน
พอนดส์ เจอร์แกนส์ แอมเวย์ เอวอน สมูทอี
Elizabeth Arden

5.สิ่งที่ใช้ปกปิดร่างกาย
ไนกี้ รีบอค บรู้คส์ คอนเวอร์ส มิซูโน อดิดาส Revlon Ralph Lauren ทิมเบอแลนด์ Guess ชาแบล
ลีวายส์ ดูปองค์ แรงเลอร์ ลีย์ โปโล GAP Liz
Claiborne Calvin Klein Mark&Spencers Banana Republic Champian DKNY Wonderbra ไซเบอร์แมน แบนเซอร์เมน แอดด้า

6. สิ่งที่ใช้เมื่อยามคุณเจ็บป่วย
วิคส์ ไทลินอล เคาน์เดอเพน Vicks Bausch&Lomb
Acuvue Neutrogena Bristol Squibb Phamacia Pfizer Band-Aid

7. สิ่งที่ใช้สำหรับลูกหลานของคุณ
แพมเพอร์ส แพนด้า ฮักกี้ส์ แลคโตเย่น เนสตุ้ม เนสเปร แอ็บบอต ซีรีแล็ค Mead & Johnson เอนฟาแล็ค เอนฟาโปร เอนฟราโกร Similae Gain อแลคต้า เอนเอฟ ซัสตาเยน จูเนียร์ Neosure Pediasure Isomil

8.สิ่งที่ใช้ในสำนักงานคุณ
ซีร็อกซ 3M สก้อต เชฟเฟอร์ ปาร์กเกอร์ Reader’Digest McGraw-Hill’

9.สิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ
ยอร์ค แคเรียร์ เทรน ยูเนียน แอร์มิราโด จิบสัน GE Black&Decker เวิร์ลพูล โบลต์วิกอัลไพน์ ไพโอเนียร์

10.สิ่งที่ใช้ในการทำงานและติดต่อสื่อสารของคุณ
Nokia Motorola AT&T Intel Compaq HP-Hewlett Packard Canon LexMark 3M imation Orade Packard Bell Electronics 3-Comp Dell Comp Microsoft

11.สิ่งที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง สำหรับยานพาหนะ
Chevrolet GMC Porsche Ford Cadillac Saab Chryster Opel Holden Oldsmobile Pontiac Mercedes-Benz Harley Davidson ยางGoodyear น้ำมัน Caltex Shell Esso Mobril Jet Delo Halovine Chevron Marathon Techron Conoco Pennzoil BP Sunoco

12.สถานที่ฝากท้องเวลาหิวของคุณ
แมคโดนัลด์ เคเอฟซี เบอร์เกอร์คิง แมคเบอร์เกอร์ ดังกิ้นโดนัท พิซซ่าฮัท เอแอน์ดับบลิว ซิสเลอร์ ฮาเก้นดัซ
บัสกิ้นร็อบบินส์ สตาร์บัค บู๊ท บอร์ดี้ชอบ เทสโก้ โลตัส สเวนเซนส์

13 .ขนมขบเคี้ยว ลูกอม ไอศกรีม
เลย์ ฟิลาเดลเฟีย ครีม ชีส สแนคแจค ทรีดี สแนค โทสดิโทส ชิดตส Heinz มันโชส เคลล็อกซ์ เนสท์เลย์ ครั้นซ์
คิทแคท สแน็ค มันมัน แซมบ้า พริงเกิ้ล ทวิสตี้ เฮอเชย์
ซารา ลี คราฟท์ Popsecret นาบิสโก้ โอริโอ ริท โปโล บับบาลู เดนทีน คลอเรท แมคกี้ ซูกัส เจลโล่ ชิพอะฮอย ช็อคโกแลดซูซาร์ด ช็อคโกแลตทีดอร์ คนอร์
ท็อบเบิลโรน สมาร์ทตี้ ทราคินัส ชิคเคล็ดส์ ลูกอมฮอลล์ หมากฝรั่งริกลี่ แมกนั่ม เบรเยอร์ โซเลโร่ ฟริสโก้ วอลล์ แดรี่ฟาร์ม แมคโนเลีย โยครีม คาร์ทีดอร์ คอนเนตโต ดานอนซ์

14.เครื่องดื่มของคุณ
เปปซี่ มิรินด้า เมาเทนดิว เซเว่นอัฟ โค้ก แฟนต้า สไปร์ท เมลโล่ อาร์ซี คาปริซอน ชเวปป ซันคิล แทงก์
กรีนสปอร์ต เนสกาแห ไมโล เทสเตอร์ชอยส์ มอคโคนา ดีน บัดดี้ดีน คอฟฟี่เมต ลิปตัน ทวินนิ่ง คาร์เนชั่น ตราหมี คันทรีเฟรช แดรี่เฟรช โอวัลติน คาร์เนชั่น น้ำดื่มวิทเทล มิเนเร่ คริสตัล น้ำทิพย์

15.ธุรกิจการเงินของคุณ
อเมริกันเอ็กเพรส ซิตี้แบงค์ AIA Diner club John Hancock เงินดอลลาร์

16 .สายการบิน
Southwest Delta continental United Airline Boing Apache


เงินของคุณที่จ่ายไปเพื่อช่วยปลิดชีพพี่น้องของคุณ
คนที่พวกคุณเรียกพวกเขาว่า" เรือนร่างเดียวกับฉัน”
ทุกๆการงาน ทุกๆการกระทำ ต้องกลับไปตอบพระผู้สร้างชีวิตเอง วันที่ปากไม่ได้พูด วันที่อวัยวะต่างๆจะบอกถึงสิ่งที่เจ้าของมันสั่งใช้ วันที่ไม่มีความลับอีกแล้ว ทุกๆการกระทำจะได้รับผลตอบแทนอย่างครบถ้วน

เงินทุกบาทของคุณ อย่าให้ตกอยู่ในมือของศัตรู อิสลาม
ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อพี่น้องของเราที่กำลังถูกทำลาย
มุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน

หน้าประวัติศาสตร์ : ข้อเท็จจริงของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล (ยิว) และปาเลสไตน์

ความขัดแย้งระหว่างยิวกับปาเลสไตน์เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ความขัดแย้งระหว่างยิวกับปาเลสไตน์มีที่มาจากชาวยิวที่เชื่อในพระคัมภีร์ยิวที่ว่าพระเจ้าได้ประทานดินแดนแห่งนี้ให้เป็นบ้านของชาวยิวและหวังว่าจะได้กลับมาครอบครองดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง ดังนั้นเมื่อปี ค.ศ.1897 ชาวยิวในสหรัฐอเมริกาและยุโรป จึงได้รวมตัวกันตั้งองค์การยิวสากล หรือ Zionist (ไซออนนิสต์) ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งคนยิวกลับมาตั้งถิ่นฐานและสร้างชาติยิวขึ้นใหม่ในดินแดนปาเลส ไตน์ หลังจากที่ชาติยิวโบราณในดินแดนนี้ได้ล่มสลายไปแล้วกว่า 1,000 ปี โดยปลุกความคิดในเรื่องการนับถือศาสนาแล้วใส่ความคิดชาตินิยมเข้าไป และเตรียมการที่จะก้าวไปสู่การบรรลุจุดมุ่งหมายตามความเชื่อนี้ วิธีการของยิว วิธีการที่ทำให้ไซออนิสต์ดำเนินการไปตามวัตถุประสงค์ได้คือการใช้การสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกรวมทั้งอังกฤษซึ่งในขณะนั้นอังกฤษยึดครองปาเลสไตน์อยู่ โดยพยายามเชิญชวนให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกันระหว่างประเทศเหล่านั้นกับองค์กรไซออนิสม์สากล โดยอังกฤษได้ออกกฎหมายให้มีการอพยพชาวยิวเข้าไปได้ปีละ 16,500 คนและยังได้ออกกฎหมายให้ชาวยิวควบคุมกิจการไฟฟ้าและชลประทาน และให้ชาวยิวใช้สินแร่สำคัญของประเทศซึ่งเป็นการเอาเปรียบชาวอาหรับที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมซึ่งเป็นจำนวนถึง 88% ของประเทศ นอกจากนี้สหรัฐอเมริกาก็พยายามจะนำตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมตลอดเวลา เช่น ให้ความช่วยเหลือชาวยิวในการลักลอบเข้าไปในปาเลสไตน์ ในปี ค.ศ.1918 ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการไซออนิสต์ในปาเลสไตน์ขึ้น และอ้างว่าเป็นตัวแทนของชาวยิวทั่วโลกโดยจะมีหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลอังกฤษในปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับชาวยิวที่อพยพเข้ามา หลังจากนั้นไม่นานองค์กรนี้ก็ได้กลายมาเป็นรัฐบาลที่สองคู่กับรัฐบาลอังกฤษในปาเลสไตน์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องชาวยิว อพยพ ตั้งระบบการศึกษาและสุขาภิบาลเพื่อชาวยิว และนายยาโบตินสกี้ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายขวาของ ไซออนิสต์ได้จัดตั้งกองทัพใต้ดินของชาวยิวชื่อ ”ฮานากาห์” ขึ้นมา เมื่ออังกฤษมีกำลังอ่อนแอลงรวมทั้งไม่ยอมเพิ่มโควตาการอพยพของชาวยิวเข้ามา ทำให้กองทัพฮานากาห์ต่อสู้กับอังกฤษและ ก่อการร้ายในปาเลสไตน์ โดยพวกไซออนิสต์ได้รับการสนับสนุนทางด้านอาวุธจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้อังกฤษไม่สามารถดูแลปาเลสไตน์ต่อไปได้ และถอนตัวออกไปในปี ค.ศ.1948และส่งมอบความดูแลของปาเลสไตน์ให้องค์การ สหประชาชาติต่อไป



การเข้ามามีอำนาจเหนือยิวของสหรัฐอเมริกาและชนวนความขัดแย้ง

เมื่ออังกฤษหมดอำนาจไป สหรัฐอเมริกาก็รีบเข้ามาจัดการกับปาเลสไตน์ทันที สหรัฐอเมริกาเห็นว่าการตั้งรัฐยิวซ้อนขึ้นมาในปาเลสไตน์แทนที่จะแบ่งดินแดนกันจะเป็นประโยชน์ของอเมริกาในเอเชียตะวันตกมากกว่า จึงได้มีการจัดตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้อิสราเอลเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการแสวงหาผลประโยชน์ในแถบตะวันออกกลาง หรือให้อิสราเอลเป็นยามเฝ้าน้ำมันในตะวันออกกลางนั่นเองและใช้เป็นเครื่องมือในการต่อต้านกลุ่มประเทศอาหรับเมื่อมีประเทศในกลุ่มอาหรับมีความเห็นขัดแย้งไปจากสหรัฐอเมริกา โดยสหรัฐได้สนับสนุนทางการเงินและทางด้านอาวุธ โดยช่วงแรกมีการส่งไปอย่างลับๆ อีกทั้งยังเสแสร้งว่าไม่ทราบว่ามีการขนอาวุธเข้าไปในปาเลสไตน์โดยชาวยิว และก็มีการให้แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันนีตะวันตกส่งอาวุธเข้าไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เปลี่ยนมาเป็นการส่งแบบเปิดเผยแทน อิสราเอลจึงกลายเป็นฐานทัพที่ เข้มแข็งของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มประเทศอาหรับเป็นอย่างมากจนเกิดเป็นชนวนความขัดแย้ง
การต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ หลังจากการเข้ามาครอบครองดินแดนโดยอิสราเอลแล้ว ชาวปาเลสไตน์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของดินแดนอธิปไตยของตนเอง ดินแดนซึ่งเป็นของชาวปาเลสไตน์แต่กลับถูกยึดครองจากชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มีความผูกพันทางเชื้อชาติใด ๆ และไม่มีสิทธิใด ๆที่จะมายึดเอาดินแดนของตนไป ชาวปาเลสไตน์จึงมีการต่อต้านโดยใช้วิธีการต่าง ๆ ทั้งวิธีการทางการเมือง วิธีการทางทหาร และการใช้ความรุนแรง แต่กระนั้น ประชาชนต่างก็ทำไปเพื่อปลดปล่อยดินแดนของตนจากการถูกแย่งชิงไป ซึ่งหลายครั้งที่ก่อให้เกิดสงครามและการต่อสู้กันอย่างยืดเยื้อระหว่างเจ้าของดินแดนและผู้ยึดครอง จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดที่ยิวกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ในรอบ 60 ปี หลังจากได้ปิดล้อมฉนวนกาซา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมาทำให้ชาวปาเลสไตน์เดือดร้อนเป็นอย่างมาก



กลุ่ม ฮามาส (Hamas)

ฮามาสนั้นเป็นกลุ่มที่เกิดมาจากขบวนการภราดรภาพมุสลิมในประเทศอียิปต์ ที่ก่อตั้งขึ้นโดย หะซัน อัลบันนา (Hasan al Banna) ในปี ค.ศ.1928 ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ทรงพลังยิ่งในการจุดประกาย Political Islam และกระแสการฟื้นฟูอิสลาม อย่างไรก็ตาม ฮามาสก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1987 โดยมี เชคอะห์มัด ยาซีน เป็นผู้นำคนแรก และมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือมุสลิมในปาเลสไตน์ต่อสู้กับอิสราเอล รวมทั้งมีนโยบายที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในการเปลื่ยนแปลงสังคมมุสลิมในปาเลสไตน์ให้กลับไปมีความเคร่งครัด และยึดมั่นหลักการแห่งศาสนาอิสลาม โดยมีเป้าหมายสุดยอด คือการขับไล่อิสราเอลออกจากดินแดนปาเลสไตน์ พร้อมกับสถาปนารัฐที่ใช้กฎหมายอิสลามเป็นธรรมนูญในการปกครอง ซึ่งปัจจุบันได้รับการเลือกตั้งให้เป็นรัฐบาล ดังนั้น แม้จะถูกอิสราเอล สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ขึ้นบัญชีดำให้เป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์แล้วนั้น ฮามาส คือ วีรบุรุษที่ยืนหยัดต่อสู้ เพื่อเรียกร้องสิทธิชาวปาเลสไตน์ ซึ่งในการต่อสู้กับอิสราเอลนั้น ฮามาสมีจุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจนถึงการไม่ยอมรับสถานะของรัฐอิสราเอล

ข่าว 2 ม.ค.52

ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสเสียชีวิตจากเหตุโจมตีกาซ่า

กาซาซิตี้ 2 ม.ค.- อิสราเอลสังหารผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ระหว่างการทิ้งระเบิดหลายสิบลูกโจมตีกาซา เมื่อวาน ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่สุดในรอบ 6 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 420 คน ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 2,000 คน
ผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮามาสที่เสียชีวิตรายนี้ มีชื่อว่า นายนิซาร์ เรย์ยาน ถือเป็นแกนนำอาวุโสที่สุดของกลุ่มฮามาส ที่เสียชีวิตนับจากปี 2547 ซึ่งก่อนหน้านี้ นายเรย์ยาน ก็เคยออกมาเรียกร้องให้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีอิสราเอล
กลุ่มฮา มาสให้การยอมรับ นายเรย์ยาน ว่า เป็นเหมือนแกนนำทางการเมืองของกลุ่ม แต่ นายเรย์ยาน มักจะสวมชุดเครื่องแบบทหารอยู่เป็นประจำ และมักเข้าไปทำงานคลุกคลีในส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส นักวิเคราะห์มองว่า การเสียชีวิตของ นายเรย์ยาน น่าจะส่งผลให้กลุ่มฮามาสยิ่งแข็งขืน และพยายามต่อสู้กับอิสราเอลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดุอาอฺกุหนูตป้องกันเคราะห์กรรม


โดย..อาจารย์อะหมัด สมะดี (ร่อหิมะฮุลลอฮฺ)

“กุนูตุนนะวาซิล” (กุนูตวิกฤต) คือ กุนูตในสถานการณ์ที่เกิดปัญหากับประชาชาติอิสลาม เมื่อพี่น้องมุสลิมเดือดร้อน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บัญญัติให้อิมามรณรงค์ขอดุอาอฺในการละหมาดทุกวักตู (ถ้าทำได้) หรือเลือกบางวักตูก็ได้ โดยการกุนูตก่อนหรือหลังรุกัวอฺในร็อกอะฮฺสุดท้าย ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมและลงโทษผู้อธรรม บทดุอาอฺมีดังนี้

بسم الله الرحمن الرحيم
الحَمْدُ لله حَمْدًا يَلِيْقُ بِجَلالِ وَجْهِهِ وَعَظِيْمِ سُلْطَانِهِ
การสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ เป็นการสรรเสริญที่คู่ควรกับความสง่างามแห่งพระพักตร์ของพระองค์ และความยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดแห่งอำนาจของพระองค์

الحَمْدُ للهِ حَمْدَاً طَيِّبَاً كَثِيْرَاً مُبَارَكَاً فِيْهِ مِلأَ السَّمَوَاتِ وَالأرْضِ وَمِلأ مَا بَيْنَهُمَا وَمِلأ مَا شِئْتَ مِنْ شَيْءٍ بَعْدُ أَهْلَ الثَّنَاءِ وَالمَجْدِ أَحَقُّ مَا قَالَ العَبْدُ وَكُلُّنَا لَكَ عَبْدٌ
การสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ เป็นการสรรเสริญที่ดีอย่างมากมาย เป็นศิริมงคลในการสรรเสริญ นั้น ซึ่งบรรดาการสรรเสริญที่เต็มท้องฟ้าทั้งหลายและเต็มแผ่นดิน และเต็มสิ่งที่อยู่ในระหว่างมันทั้งสอง และเต็มทั่วสิ่งที่พระองค์ทรงประ สงค์หลังจากนั้น พระผู้ทรงสมควรยิ่งแก่มวลการสรรเสริญ และทรงเกียรติยศ พระองค์ทรงเหมาะสมยิ่งแล้วที่บ่าวได้พรรณาไว้ และพวกข้าพระองค์ทุกคนนั้นเป็นบ่าวของพระองค์

اللَّهُمَّ لا مَانِعَ لِمَا أَعْطَيْتَ وَلا مُعْطِيَ لِمَا مَنَعْتَ وَلا يَنْفَعُ ذَا الجَدِّ مِنْكَ الجَدُّ
โอ้อัลลอฮฺ ! ไม่มีใครจะขัดขวาง ในสิ่งที่ พระองค์ทรงประทานให้ และไม่มีใครจะให้ได้ในสิ่งที่พระองค์ทรงขัดขวาง ความยิ่งใหญ่และความมั่งคั่งจะไม่ก่อประโยชน์แก่ผู้ยิ่งใหญ่และผู้มั่งคั่งให้พ้นจากการลงโทษของพระองค์ได้เลย

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إِبْرَاهِيْمَ وَعَلَى آلِ إِبْرَاهِيْمَ ، إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَجِيْدٌ ،
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอได้โปรดประทานพรแก่มุฮัมมัด และวงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่ได้ทรงประทานพรแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอฮีมมาแล้ว แน่แท้พระองค์เป็นผู้ทรงได้รับการสรรเสริญยิ่งและทรงไว้ซึ่งเกียรติอันสูงศักดิ์
اللَّهُمَّ بَارِكْ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ كَمَا بَارَكْتَ عَلَى إِبْرَاهِيْمَ وَعَلَى آلٍ إِبْرَاهِيْمَ إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَجِيْدٌ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอได้โปรดประทานความศิริมงคลแด่มุฮัมมัด และวงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ประทานความศิริมงคลแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอ ฮีมมาแล้ว แน่แท้พระองค์เป็นผู้ทรงได้รับการสรรเสริญยิ่งและทรงไว้ซึ่งเกียรติอันสูง ศักดิ์
***********
اللَّهُمَّ أَعِزَّ الإسْلامَ وَانْصُرِ المُسْلِمِيْنَ .
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงเทิดเกียรติให้ แก่อิสลาม และช่วยเหลือสนับสนุนบรรดามุสลิมีน
اللَّهُمَّ أَذِلَّ الشِّرْكَ وَالمُشْرِكِيْنَ ، وَادْفَعْ كَيْدَ الكَائِدِيْنَ .
โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงลดเกียรติและความต่ำต้อยแก่การตั้งภาคีและบรรดาผู้ตั้งภาคีกับ พระองค์ และทรงกำจัดการวางแผนชั่วร้ายของบรรดานักวางแผนที่ชั่วร้าย
وَارْفَعْ بِعِزَّتِكَ رَايَتَيِ الحَقِّ والدِّيْن
และด้วยเกียรติศักดิ์ของพระองค์ ขอพระองค์ ทรงเชิดชูสัญลักษณ์แห่งสัจธรรมและศาสนาของพระองค์
****************

اللَّهُمَّ مَنْ أَرَادَ الإسْلامَ والمُسْلِمِيْنَ بِخَيْرٍ فَََوَفِّقْهُ لِكُلِّ خَيْرٍ ،
โอ้อัลลอฮฺ ! ผู้ใดที่ปรารถนาความดีให้แก่อิสลามและบรรดามุสลิมีน ขอพระองค์ทรงประทานความสำเร็จ ให้แก่เขาในทุกๆความดี
وَمَنْ أَرَادَ الإسْلامَ والمُسْلِمِيْنَ بِشَرٍّ وَسُوْءٍ فَاجْعَلْ كَيْدَهُ فِيْ نَحْرِهِ وَاجْعَلْ تَدْبِيْرَهُ فِيْ تَدْمِيْرَهُ وَأَهْلِكْهُ كَمَا أَهْلَكْتَ كُلَّ الجَبَابِرَةٍ الكَافِرِيْنَ
และผู้ใดที่ปรารถนาความชั่วร้ายและความเสียหายแก่อิสลามและบรรดามุสลิมีน ขอพระองค์ทรงทำให้การวางแผนชั่วร้ายของเขากลับไปสู่ตัวของเขา และทรงทำให้การวางแผนร้ายของเขาเป็นการทำลายเขา และนำความหายนะไปสู่เขา เสมือนกับที่พระองค์ได้ทำลายล้างและความหายนะกับทุกๆคนที่แสดงความโอหังในหมู่ผู้ปฏิเสธศรัทธามาก่อนแล้ว
اللَّهُمَّ انْصُرْ مَنْ نَصَرَ الدِّيْنَ ، واخْذُلْ مَنْ خَذَلَ الدِّيْنَ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือสนับสนุนแก่ผู้ที่ช่วยเหลือสนับสนุนศาสนาของพระองค์ และทรง ปราบปรามผู้ที่มุ่งร้ายต่อศาสนาของพระองค์
اللَّهُمَّ لا تَجْعَلْ لِلْكَافِرِيْنَ عَلَى المُؤْمِنِيْنَ سَبِيْلا ،
และทรงทำให้บรรดาผู้ศรัทธามีอำนาจเหนือพวกปฏิเสธศรัทธา
وَاجْعَلْ لِلْمُؤْمِنِيْنَ عَلَى الكَافِرِيْنَ سُلْطَانَاً مُبِيْنَاً
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงอย่าให้พวกปฏิเสธศรัทธามีอำนาจเหนือบรรดาผู้ศรัทธาต่อพระองค์
اللَّهُمَّ انْصُرِ المُسْتَضْعَفِيْنَ مِنَ المُؤْمِنِيْنَ فِيْ كُلِّ مَكَان
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือสนับสนุนบรรดาผู้ศรัทธาที่อ่อนแอในทุกสถานที่
اللَّهُمَّ فَرِّجْ هَمِّ المَهْمُوْمِيْنَ وَنَفِّسْ كَرْبَ المَكْرُوْبِيْنَ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงคลี่คลายความวิตกกังวลของบรรดาผู้ที่มีความวิตกกังวล และทรงช่วยเหลือ พวกเขาให้พ้นจากความเศร้าโศกเสียใจ
وَنَجِّ المُسْتَضْعَفِيْنَ مِنَ المُسْلِمِيْنَ فِيْ كُلِّ مَكَانٍ يَا أَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ
และทรงช่วยเหลือบรรดามุสลิมีนผู้อ่อนแอในทุกสถานที่ให้พ้นจากความวิตกกังวลและความเศร้าโศกเสียใจ โอ้พระผู้ทรงเมตตายิ่ง!
اللَّهُمَّ أَهْلِكْ أَعْدَاءَ الدِّيْنَ فَإِنَّهُمْ لا يُعْجِزُْونَكَ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงทำลายล้างบรรดาศัตรูศาสนาของพระองค์ให้ประสบความหายนะ เพราะพวก เขาจะไม่มีอำนาจเหนือพระองค์
الَّلهُمَّ أَهْلِك الظَّّالِمِيْنَ بِالظَّالِميْنَ وَأَخْرِجِ الْمُؤْمِنِينَ مِنْ بَيْنِ أَيْدِيْهِم سَالِمِيْن
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงทำลายล้างบรรดาผู้อธรรมด้วยบรรดาผู้อธรรมเอง และทรงให้บรรดาผู้ศรัทธา รอดพ้นจากน้ำมือของพวกอธรรมเหล่านั้นด้วยความปลอดภัยเทอญ


اللَّهُمَّ انْصُرْ المُجَاهِدِيْنَ فِيْ أَفْغَانِسْتَانَ وَفِيْ فِلَسْطِيْنَ وَفِيْ الشِّيْشَانَ وَالفِّلِبِّيْنَ وَكِشْمِيْرَ وَفِيْ كُلِّ مَكَانٍ يَا أَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือสนับสนุนบรรดาผู้เสียสละในหนทางของอัลลอฮฺในอัฟกานิสถาน ในปาเลสไตน์ ในเชชเนีย ในฟิลิปปินส์ ในแคชเมียร์ และในทุกสถานที่ โอ้พระผู้ทรงเมตตายิ่ง ! (ระบุสถานที่)
اللَّهُمَّ أَنْزِلْ نَصْرَكَ وَمَدَدَكَ إِلَهَنَا إِلَهَ الحَقِّ عَلَى المُجَاهِدِيْنَ فِيْ كُلِّ مَكَان
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงประทานความช่วยเหลือและกำลังหนุนของพระองค์ให้แก่บรรดาผู้ ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺในทุกๆสถานที่ โอ้พระเจ้าของเรา ! พระเจ้าแห่งสัจธรรม ! !
*********اللَّهُمَّ إِنُّهُمْ ضُعَفَاءُ فَقَوِّهِمْ . وَجِيَاعٌ فَأَطْعِمْهُمْ . وَعِطَاشٌ فَاسْقِهِمْ .
โอัอัลลอฮฺ ! พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้อ่อนแอ ขอพระองค์ทรงเสริมกำลังให้พวกเขาแข็งแรง และพวกเขากำลังหิวโหย ขอพระองค์ทรงประทานปัจจัยให้พวกเขาอิ่มเอิบ และพวกเขากำลังกระหายน้ำ ขอพระองค์ทรงประทานน้ำให้พวกเขาดื่ม
وَعُرَاةٌ فَاكْسُهُمْ . وَمُسْتَضْعَفُوْنَ فَانْصُرْهُمْ
และพวกเขากำลังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม ขอพระองค์ทรงประทานเครื่องนุ่งห่มให้แก่พวกเขา และพวกเขากำลังอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ขอพระองค์ทรงประทานความช่วยเหลือแก่พวกเขา
**************

اللَّهُمَّ إِنَّا نَسْتَنْزِلُ نَصْرَكَ الَّذِيْ نَصَرْتَ بِهِ نَبِيَّكَ وَرَسَوْلَكَ وَأَوْلِيَاءَكَ الصَّالِحِيْن
โอ้อัลลอฮฺ ! แท้จริงพวกเราขอความเอื้อเฟื้อจากความช่วยเหลือของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ให้ความช่วย เหลือแก่นะบีและร่อซูล ตลอดจนบรรดามิตรสหายทรงคุณธรรมของพระองค์มาก่อนแล้ว
اللَّهُمَّ أَنْزِلْ عَلَيْنَا نَصْرَكَ عَاجِلا غَيْرَ آَجِلٍ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงประทานความ ช่วยเหลือของพระองค์ให้แก่พวกเราอย่างรวดเร็วโดยไม่ชักช้า
اللَّهُمَّ مَنْ كَتَبَ أَوْ تَكَلَّمَ أَوْ بَذَلَ فِيْ نُصْرَةِ هَذَا الدِّيْنِ بِكَلِمَةٍِ فَانْصُرْهُ فِيْ أَهْلِهِ وَمَالِهِ وَوَلَدِهِ وَبَلَدِهِ
โอ้อัลลอฮฺ ! ผู้ใดที่บันทึกหรือกล่าวคำพูดหรือเสียสละในการส่งเสริมให้แก่ศาสนาของพระองค์ แม้เพียงกล่าวคำพูดเดียว ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือสนับสนุนเขาในครอบครัวของเขา และทรัพย์สินของเขา และลูกหลานของเขา และประเทศของเขา
اللَّهُمَّ مَنْ كَتَبَ أَوْ تَكَلَّمَ أَوْ بَذَلَ فِيْ عَدَاوَةِ الدِّيْنِ بِشَيْءٍ فَاقْطَعْ دَابِرَهُ ، وَأَخْرِسْ لِسَانَهُ وَشُلَّ أَرْكَانَهُ وَاجْعَلْهُ عِبْرَةً لِلْمُعْتَبِرِيْن
โอ้อัลลอฮฺ ! ผู้ใดที่บันทึกหรือกล่าวคำพูด ใดๆ หรือพยายามในการเป็นศัตรูกับศาสนาของพระองค์ ขอพระองค์ทรงกำจัดหรือถอนรากถอนโคนเขาเสีย และทรงทำให้เขาเป็นใบ้และทรงทำให้เขาเป็นอัมพาตไร้ ความสามารถ และทรงทำให้เขาเป็นอุทธาหรณ์แก่บรรดาผู้ที่รำลึกถึงอุทธาหรณ์
اللَّهُمَّ الْعَنِ الْكَفَرَةَ الَّذِيْنَ يُكَذِّبُوْنَ رُسُلَكَ وَيُحَارِبُوْنَ أَوْلِيَاءَكَ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ซึ่งปฏิเสธไม่เชื่อฟังบรรดาร่อซูลของพระองค์ และต่อต้านบรรดามิตรสหายผู้ทรงคุณธรรมของพระองค์
اللَّهُمَّ خُذْهُمْ أَخْذَ عَزِيْزٍِ مُقْتَدِرٍ ، وَاجْعَلْهُمْ عِبْرَةً لِمَنْ يَعْتَبِرْ
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงลงโทษพวกเขา ซึ่งการลงโทษแห่งผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอานุภาพ และทำให้พวกเขาเป็นบทเรียนแก่ผู้ที่พินิจพิจารณา (เพื่อเป็นบทเรียน)
اللَّهُمَّ مُنْزِلَ الكِتَابِ وَمُجْرِيَ السَّحَابِ وَهَازِمَ الأَحْزَابِ إِهْزِمْهُمْ وانْصُرْنَا عَلَيْهِمْ
โอ้อัลลอฮฺ ! พระผู้ทรงประทานคัมภีร์ และผู้ทรงให้เมฆหมอกเคลื่อนไปในท้องฟ้า พระผู้ทรงทำให้พวกพันธมิตรได้รับความปราชัย ขอพระองค์ทรงทำให้พวกมันพ่ายแพ้ และทรงทำให้พวกเราได้รับชัยชนะเหนือพวกมัน

اللَّهُمَّ انْصُرْ أَوْلِيَاءَكَ فِيْ كُلِّ مَكَانٍ . وَثَبِّتْهُمْ بِالقَوْلِ الثَّابِتِ فِيْ الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَفِيْ الآخِرَة
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือสนับสนุนบรรดามิตรสหายผู้ทรงคุณธรรมของพระองค์ในทุกสถานที่ และทรงให้พวกเขาหนักแน่นด้วยคำกล่าวที่มั่นคงในการมีชีวิตอยู่ทั้งในโลกนี้ และในปรโลก
**************

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552

ข่าว: เวลา 21:44 น. ผู้นำอิสราเอลบอกไม่คิดรบยืดเยื้อในกาซา

อิสราเอลทยอยเสริมรถถังและปืนใหญ่ไปประชิดชายแดนฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ในวันนี้
ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีภาคพื้นดินที่อาจจะมีขึ้น
และในเช้าวันนี้เครื่องบินอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดถล่มรัฐสภาปาเลสไตน์ในเมืองกาซา ซิตี้ ยิงโจมตีรถตำรวจฮามาส
และทำลายอุโมงค์ใต้ดินตามแนวพรมแดนระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์ ที่เป็นเส้นทางขนส่งอาวุธ
และเสบียงของกลุ่มฮามาส ขณะที่เรือรบก็ระดมยิงถล่มเป้าหมายของกลุ่มหัวรุนแรงฮามาสตามแนวชายฝั่ง

สำนักข่าว AP

ยิวและไซออนิสต์ : ยิวยุคใหม่กับโปรโตคอลก่อการร้าย


Protocols of Learned of Zion (สนธิสัญญาชั้นต้นของผู้รอบรู้อาวุโสไซออนิสต์) หรือที่ถูกต้องก็คือ มติๆต่างของยิว ถือว่าเป็นแผนการเพื่อการทำลายโลกที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยพบในยุคใหม่จนถึงขณะนี้
ไม่มีใครจะสามารถล่วงรู้ถึงอันตรายของมันได้เลย เว้นแต่ผู้ที่ศึกษามันคำต่อคำอย่างช้าๆ โดยพินิจพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกใบนี้จากความปั่นป่วนและบ่อนทำลายทั้งหลาย เมื่อนั้นเอง เขาก็จะประจักษ์ถึงแผนการร้ายของยิวที่มุ่งทำลายความเสื่อมโทรมและทำลายชาวโลก เพื่อชาวโลกทั้งหมดจะได้สยบต่อผลประโยชน์ของยิว และยิวก็จะครองโลก กุมชะตากรรมของโลกไว้แต่เพียงผู้เดียว
หากเราจินตนาการว่ามีมารร้ายผู่ก่ออาชญากรรมที่มีพลังอำนาจที่สุดกลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมเพื่อแข่งขันกันสร้างแผนชั่วและสกปรกที่ทำให้ชาวโลกตกเป็นทาสของมัน แน่นอน สติปัญญาของมนุษย์ก็มิอาจจะคิดแผนการอันชั่วร้ายไปกว่าแผนการเหล่านี้ได้เลย


การประชุมครั้งแรกของผู้รอบรู้ชาวยิวได้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1897 โดยเหล่าผู้เข้าร่วมประชุมได้ศึกษาแผนอาชญากรรมเพื่อทำให้ชาวยิวนั้นครองโลกทั้งหมดโดยมี 3 ขั้นดังนี้
1. ก่อนตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
2. ระหว่างตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
3. หลังตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์


มติการประชุมครั้งแรก
ผู้นำยิวได้จัดประชุมครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ. 1897 จนถึงปี ค.ศ.1951 ถึง 23 ครั้งด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาแผนต่างๆที่จะนำไปสู่การก่อตั้งอาณาจักรไซออนิสต์สากล ในการประชุมครั้งแรกนั้นจัดขึ้นที่เมืองบาซิลของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การนำของนายธีโอดอร์ เฮอร์เซ็ล (ผู้ก่อตั้งไซออนิสต์สากล เกิดที่เมืองบูดาเบส ปี ค.ศ. 1860 แล้วย้ายไปอยู่ที่กรุงเวียนนา และในปี ค.ศ.1895 เขาได้ประพันธ์หนังสือชื่อ "รัฐยิว" เสียชีวิตในเมืองโอลาค ในวันที่ 2 ก.ค. 1904 โดยศพของเขาถูกย้ายไปยังปาเลสไตน์และฝังที่นั่น) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 300 คนจากผู้รอบรู้ชาวยิวของ 50 สมาคมยิว และมีมติในที่ประชุมถึงแผนการลับของพวกเขา เพื่อทำให้โลกทั้งหมดตกเป็นทาสภายใต้มงกุฏกษัตริย์เชื้อสายเดวิด และในตอนนั้นมติต่างๆของพวกเขาถูกเก็บเป็นความลับอย่างเหนียวแน่น
ส่วนองค์ประกอบบางประการองแผนการก่อการร้ายของพวกเขาคือ
1. ยิวมีทัศนะว่ารูปแบบของการปกครองบนโลกทั้งหมดนั้นใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องเพิ่มการบ่อนทำลายไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อก่อตั้งอาณาจักรยิว
2. การปกครองมนุษย์ คืองานอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ความคิดของมนุษย์ยังขาดความปรานีตในงานนี้ นอกจากชาวยิว
3. มนุษย์ทั่วไปที่นอกจากชาวยิวจะต้องถูกปกครองเสมือนฝูงสัตว์ที่ต่ำต้อย ถูกปกครอง (ถูกต้อน)
4. ล่อลวงมนุษย์ด้วยตันหาราคะ และแพร่ความชั่วช้า ความเสื่อมโทรม จนกระทั่งประชาชาติต่างนองเลือดกันเอง และไม่มีทางเลือกใดๆนอกเสียจากจะต้องโยนตัวเองไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของชาวยิว
5. ชาวโลกนอกจากยิว โดยเฉพาะบรรดาผู้นำ แท้จริงพวกเขาเหล่านั้นก็คือหมากรุกในมือของพวกเขา เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ตกเป็นทาสโดยการข่มขู่ ทรัพย์สมบัติ ผู้หญิง ตำแหน่งต่างๆ และ ฯลฯ
6. สร้างวิกฤตการทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อโลกจะได้ไม่อยู่อย่างสงบ แล้วก็หันไปขอความช่วยเหลือการปัดเป่าความโศรกเศร้า และทำให้คนสิ้นคิดมีความสุขด้วยอำนาจของยิว
7. สื่อทุกชนิดจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของยิว ไม่ว่าจะเป็นสื่อการพิมพ์ หนังสือพิมพ์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงละคร บริษัทผลิตภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ ศาสตร์แขนงต่างๆ กฏหมาย ตลาดหุ้น การลงทุน และ ฯลฯ
8. ขอความช่วยเหลือจากทองคำ ซึ่งยิวได้กักตุนมันไว้ เพื่อขจัดจิตสำนึก ทำลายมนุษย์ และครอบครองโลกทั้งหมดไว้


โปรโตคอลถูกเปิดโปงได้อย่างไร?
เพราะสตรีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง (นางเคยเป็นชู้รักของนักบวชหนุ่มชาวยิว และนางเป็นสายลับของรัสเซีย) ขณะที่นางได้เข้าร่วมประชุมกับผู้นำอาวุโสของยิวในฝรั่งเศส นางสามารถขโมยเอกสารบางส่วนและนำมันหนีออกมา และก็ได้นำส่งเอกสารเหล่านั้นไปยังอเล็ก นิโคลัส เนฟซ์ ผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโสในกลุ่มองคมนตรีแห่งรัสเซียตะวันออกในยุคของพระเจ้าซาร์ แล้วเขาก็ได้รับรู้ถึงอันตรายและเจตนาร้ายของมันต่อชาวโลกโดยเฉพาะประเทศรัสเซียของเขาเอง
หลังจากนั้น เขามีความคิดว่าควรจะเก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัย ซึ่งเขาสามารถเอาประโยชน์ได้และแพร่มันออกไป ดังนั้นเขาจึงได้มอบเอกสารให้กับเพื่อสนิทของเขา ซึ่งเป็นนักวิชาการชาวรัสเซีย คือ นายเซอร์จี ไนลอส ซึ่งเขาได้ศึกษามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันในขณะนั้น เขาจึงรู้ล่วงหน้า (คาดการ) และเหตุการณ์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วโลกบางส่วนที่จะขอกล่าวคือ
- แผนโค่นล้มพระจักรพรรดิ์แห่งรัสเซีย แพร่หลายระบอบคอมมิวนิสต์ และยึดเอารัสเซียเพื่อแพร่หลายแผนการร้ายและความปั่นป่วนในโลก (ซึ่งก็เป็นจริงและประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง)
- แผนโค่นล้มอาณาจักรอุสมานียะฮฺ (อ็อตโตมัน) โดยฝีมือของชาวยิวก่อนการก่อตั้งอิสราเอล (และระบอบอุสมานียะฮฺก็ล่มสลายจริง)
- แผนการเพื่อนำชาวยิวเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์ และสถาปนารัฐอิสราเอล (และรัฐอิสราเอลก็ถูกก่อตั้งจริงในปัจจุบัน)
- แผนการเพื่อโค่นล้มระบบกษัตริย์ในยุโรป (และระบบกษัตริย์ก็ถูกขจัดไปทั้งในเยอรมัน ออสเตรีย โรมาเนีย อิตาลี และ ฯลฯ)
- แผนการก่อสงครมโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ต่างสูญเสียไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่มีผู้ใดได้รับประโยชน์นอกเสียจากชาวยิว (และสงครามโลกทั้งสองครั้งก็เกิดขึ้นจริง และขณะนี้ยิวกำลังเตรียมพร้อมกับการก่อสงครามโลกครั้งที่ 3?)
-แผนการแพร่กระจายความปั่นป่วน วิกฤติการณ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศบนรากฐานของทองคำ ซึ่งยิวได้กักตุนไว้
-และอื่นๆจากแผนการณ์ที่ประจักษ์ถึงข้อเท็จจริงของมันต่อสายตาของเราทุกคน

แท้ที่จริงแล้ว การดำเนินการของยิวในรัสเซียนั้นก็เสมือนกับการดำเนินการของพวกเขาในอเมริกาในทุกวันนี้ หรือจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ดังนั้นการปกครองในอเมริกาของพวกเขามาจากยิว หรือผลงานของยิว โดยใช้เงิน เศรษฐกิจ และผู้หญิง
กล่าวคือทั้งสองประเทศนั่นก็คือประเทศมหาอำนาจ ยิวได้ดึงทั้งสองเข้าสู่สงครามเพื่อการทำลายไปพร้อมกันๆ และปล่อยบางประเทศไว้บนความเป็นกลางเพื่อเป้าหมายของยิวโดยเฉพาะ (ยิวใช้สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เป็นศูนย์กลางสำคัญในการวางแผนต่างๆ และเป็นที่เก็บทองคำ ทรัพย์สมบัติ ด้วยเหตุนี้เองเขาถึงประกาศความเป็นกลาง เพื่อให้มีความปลอดภัยกับตัวเขา ดังนั้นไม่เป็นที่แปลกใจเลยที่สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นเมืองหลวงทางการเงินและธนาคารโลก และกรุงเจนีวาเป็นปราสาทของสหประชาชาติ) ครั้นเมื่อสองประเทศทั้งสหรัฐและรัสเซียถูกโค่นล้ม ยิวก็เพิ่มความละโมภขึ้นอีกที่จะปกครองโลกทั้งหมด โดยการปกครองอย่างเปิดเผยภายใต้มงกุฏของกษัตริย์เชื้อสายเดวิดแทนจากการปกครองที่สวมหน้ากากอยู่ในขณะนี้ !!!???

ยิวและไซออนิสต์ : ยิวยุคใหม่กับโปรโตคอลก่อการร้าย

Protocols of Learned of Zion (สนธิสัญญาชั้นต้นของผู้รอบรู้อาวุโสไซออนิสต์) หรือที่ถูกต้องก็คือ มติๆต่างของยิว ถือว่าเป็นแผนการเพื่อการทำลายโลกที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยพบในยุคใหม่จนถึงขณะนี้
ไม่มีใครจะสามารถล่วงรู้ถึงอันตรายของมันได้เลย เว้นแต่ผู้ที่ศึกษามันคำต่อคำอย่างช้าๆ โดยพินิจพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกใบนี้จากความปั่นป่วนและบ่อนทำลายทั้งหลาย เมื่อนั้นเอง เขาก็จะประจักษ์ถึงแผนการร้ายของยิวที่มุ่งทำลายความเสื่อมโทรมและทำลายชาวโลก เพื่อชาวโลกทั้งหมดจะได้สยบต่อผลประโยชน์ของยิว และยิวก็จะครองโลก กุมชะตากรรมของโลกไว้แต่เพียงผู้เดียว
หากเราจินตนาการว่ามีมารร้ายผู่ก่ออาชญากรรมที่มีพลังอำนาจที่สุดกลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมเพื่อแข่งขันกันสร้างแผนชั่วและสกปรกที่ทำให้ชาวโลกตกเป็นทาสของมัน แน่นอน สติปัญญาของมนุษย์ก็มิอาจจะคิดแผนการอันชั่วร้ายไปกว่าแผนการเหล่านี้ได้เลย




การประชุมครั้งแรกของผู้รอบรู้ชาวยิวได้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1897 โดยเหล่าผู้เข้าร่วมประชุมได้ศึกษาแผนอาชญากรรมเพื่อทำให้ชาวยิวนั้นครองโลกทั้งหมดโดยมี 3 ขั้นดังนี้
1. ก่อนตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
2. ระหว่างตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
3. หลังตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์




มติการประชุมครั้งแรก
ผู้นำยิวได้จัดประชุมครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ. 1897 จนถึงปี ค.ศ.1951 ถึง 23 ครั้งด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาแผนต่างๆที่จะนำไปสู่การก่อตั้งอาณาจักรไซออนิสต์สากล ในการประชุมครั้งแรกนั้นจัดขึ้นที่เมืองบาซิลของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การนำของนายธีโอดอร์ เฮอร์เซ็ล (ผู้ก่อตั้งไซออนิสต์สากล เกิดที่เมืองบูดาเบส ปี ค.ศ. 1860 แล้วย้ายไปอยู่ที่กรุงเวียนนา และในปี ค.ศ.1895 เขาได้ประพันธ์หนังสือชื่อ "รัฐยิว" เสียชีวิตในเมืองโอลาค ในวันที่ 2 ก.ค. 1904 โดยศพของเขาถูกย้ายไปยังปาเลสไตน์และฝังที่นั่น) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 300 คนจากผู้รอบรู้ชาวยิวของ 50 สมาคมยิว และมีมติในที่ประชุมถึงแผนการลับของพวกเขา เพื่อทำให้โลกทั้งหมดตกเป็นทาสภายใต้มงกุฏกษัตริย์เชื้อสายเดวิด และในตอนนั้นมติต่างๆของพวกเขาถูกเก็บเป็นความลับอย่างเหนียวแน่น

ส่วนองค์ประกอบบางประการของแผนการก่อการร้ายของพวกเขาคือ
1. ยิวมีทัศนะว่ารูปแบบของการปกครองบนโลกทั้งหมดนั้นใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องเพิ่มการบ่อนทำลายไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อก่อตั้งอาณาจักรยิว
2. การปกครองมนุษย์ คืองานอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ความคิดของมนุษย์ยังขาดความปรานีตในงานนี้ นอกจากชาวยิว
3. มนุษย์ทั่วไปที่นอกจากชาวยิวจะต้องถูกปกครองเสมือนฝูงสัตว์ที่ต่ำต้อย ถูกปกครอง (ถูกต้อน)
4. ล่อลวงมนุษย์ด้วยตันหาราคะ และแพร่ความชั่วช้า ความเสื่อมโทรม จนกระทั่งประชาชาติต่างนองเลือดกันเอง และไม่มีทางเลือกใดๆนอกเสียจากจะต้องโยนตัวเองไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของชาวยิว
5. ชาวโลกนอกจากยิว โดยเฉพาะบรรดาผู้นำ แท้จริงพวกเขาเหล่านั้นก็คือหมากรุกในมือของพวกเขา เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ตกเป็นทาสโดยการข่มขู่ ทรัพย์สมบัติ ผู้หญิง ตำแหน่งต่างๆ และ ฯลฯ
6. สร้างวิกฤตการทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อโลกจะได้ไม่อยู่อย่างสงบ แล้วก็หันไปขอความช่วยเหลือการปัดเป่าความโศรกเศร้า และทำให้คนสิ้นคิดมีความสุขด้วยอำนาจของยิว
7. สื่อทุกชนิดจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของยิว ไม่ว่าจะเป็นสื่อการพิมพ์ หนังสือพิมพ์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงละคร บริษัทผลิตภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ ศาสตร์แขนงต่างๆ กฏหมาย ตลาดหุ้น การลงทุน และ ฯลฯ
8. ขอความช่วยเหลือจากทองคำ ซึ่งยิวได้กักตุนมันไว้ เพื่อขจัดจิตสำนึก ทำลายมนุษย์ และครอบครองโลกทั้งหมดไว้




โปรโตคอลถูกเปิดโปงได้อย่างไร?
เพราะสตรีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง (นางเคยเป็นชู้รักของนักบวชหนุ่มชาวยิว และนางเป็นสายลับของรัสเซีย) ขณะที่นางได้เข้าร่วมประชุมกับผู้นำอาวุโสของยิวในฝรั่งเศส นางสามารถขโมยเอกสารบางส่วนและนำมันหนีออกมา และก็ได้นำส่งเอกสารเหล่านั้นไปยังอเล็ก นิโคลัส เนฟซ์ ผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโสในกลุ่มองคมนตรีแห่งรัสเซียตะวันออกในยุคของพระเจ้าซาร์ แล้วเขาก็ได้รับรู้ถึงอันตรายและเจตนาร้ายของมันต่อชาวโลกโดยเฉพาะประเทศรัสเซียของเขาเอง
หลังจากนั้น เขามีความคิดว่าควรจะเก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัย ซึ่งเขาสามารถเอาประโยชน์ได้และแพร่มันออกไป ดังนั้นเขาจึงได้มอบเอกสารให้กับเพื่อสนิทของเขา ซึ่งเป็นนักวิชาการชาวรัสเซีย คือ นายเซอร์จี ไนลอส ซึ่งเขาได้ศึกษามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันในขณะนั้น เขาจึงรู้ล่วงหน้า (คาดการ) และเหตุการณ์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วโลกบางส่วนที่จะขอกล่าวคือ
- แผนโค่นล้มพระจักรพรรดิ์แห่งรัสเซีย แพร่หลายระบอบคอมมิวนิสต์ และยึดเอารัสเซียเพื่อแพร่หลายแผนการร้ายและความปั่นป่วนในโลก (ซึ่งก็เป็นจริงและประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง)
- แผนโค่นล้มอาณาจักรอุสมานียะฮฺ (อ็อตโตมัน) โดยฝีมือของชาวยิวก่อนการก่อตั้งอิสราเอล (และระบอบอุสมานียะฮฺก็ล่มสลายจริง)
- แผนการเพื่อนำชาวยิวเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์ และสถาปนารัฐอิสราเอล (และรัฐอิสราเอลก็ถูกก่อตั้งจริงในปัจจุบัน)
- แผนการเพื่อโค่นล้มระบบกษัตริย์ในยุโรป (และระบบกษัตริย์ก็ถูกขจัดไปทั้งในเยอรมัน ออสเตรีย โรมาเนีย อิตาลี และ ฯลฯ)
- แผนการก่อสงครมโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ต่างสูญเสียไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่มีผู้ใดได้รับประโยชน์นอกเสียจากชาวยิว (และสงครามโลกทั้งสองครั้งก็เกิดขึ้นจริง และขณะนี้ยิวกำลังเตรียมพร้อมกับการก่อสงครามโลกครั้งที่ 3?)
-แผนการแพร่กระจายความปั่นป่วน วิกฤติการณ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศบนรากฐานของทองคำ ซึ่งยิวได้กักตุนไว้
-และอื่นๆจากแผนการณ์ที่ประจักษ์ถึงข้อเท็จจริงของมันต่อสายตาของเราทุกคน


แท้ที่จริงแล้ว การดำเนินการของยิวในรัสเซียนั้นก็เสมือนกับการดำเนินการของพวกเขาในอเมริกาในทุกวันนี้ หรือจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ดังนั้นการปกครองในอเมริกาของพวกเขามาจากยิว หรือผลงานของยิว โดยใช้เงิน เศรษฐกิจ และผู้หญิง
กล่าวคือทั้งสองประเทศนั่นก็คือประเทศมหาอำนาจ ยิวได้ดึงทั้งสองเข้าสู่สงครามเพื่อการทำลายไปพร้อมกันๆ และปล่อยบางประเทศไว้บนความเป็นกลางเพื่อเป้าหมายของยิวโดยเฉพาะ (ยิวใช้สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เป็นศูนย์กลางสำคัญในการวางแผนต่างๆ และเป็นที่เก็บทองคำ ทรัพย์สมบัติ ด้วยเหตุนี้เองเขาถึงประกาศความเป็นกลาง เพื่อให้มีความปลอดภัยกับตัวเขา ดังนั้นไม่เป็นที่แปลกใจเลยที่สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นเมืองหลวงทางการเงินและธนาคารโลก และกรุงเจนีวาเป็นปราสาทของสหประชาชาติ) ครั้นเมื่อสองประเทศทั้งสหรัฐและรัสเซียถูกโค่นล้ม ยิวก็เพิ่มความละโมภขึ้นอีกที่จะปกครองโลกทั้งหมด โดยการปกครองอย่างเปิดเผยภายใต้มงกุฏของกษัตริย์เชื้อสายเดวิดแทนจากการปกครองที่สวมหน้ากากอยู่ในขณะนี้ !!!???

อิสราเอล ผู้ก่อการร้ายตัวจริง!

++update++

ติดตามข่าวสารทุกชั่วโมงที่นี่
http://twitter.com/ajgaza


ภาพจริง
http://www.occupation101.com/



ถ่ายทอดสด"วันญิฮาด" จากสันติชน

http://61.19.252.16/~tvmt/

(ขณะนี้มีผู้ต้องการเดินทางไปปาเลสไตน์ จำนวน 14 คน)

ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้น




การประท้วงที่อินโดนีเซีย